“สะดือเหม็น” ปัญหาสุขอนามัย ไม่ควรมองข้าม อาจเป็นสัญญาณการติดเชื้อ
สะดือเหม็น ปัญหาที่บอกใครไม่ได้ แต่แก้ด้วยการดูแลให้ถูกสุขลักษณะ หรือ อาจจะเป็นสัญญาณเตือนติดเชื้อและโรคต่างๆ อย่าง “เบาหวาน” ได้
“สะดือ” หรือรูกลมๆที่เราเห็นบนท้องนั้น จริงๆแล้วก็คือ แผลเป็นที่เกิดจากการตัดสายสะดือซึ่งมันมีความสำคัญขณะที่อยู่ในท้องทำหน้าที่ส่งสารอาหารและออกซิเจนจากแม่ไปสู่ทารกในครรภ์ ซึ่งเป็นอวัยวะที่หลายคนมองข้ามให้การดูแลรักษาเพราะอยู่ใต้ร่มผ้า ซึ่งอาจจะมีกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ออกมาจากสะดือได้ หรือที่เรียกว่า สะดือเหม็น โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา ในบางครั้งอาการสะดือเหม็นก็เกิดขึ้นร่วมกับอาการบวมแดงและสร้างความเจ็บปวดในบริเวณใกล้เคียงด้วย
“เสริมหน้าอก” อย่างปลอดภัยเพื่อสรีระในฝันผ่านการคัดกรองมะเร็งเต้านม
“โรคกระเพาะอาหาร”ปวดท้องแบบไหน อาการใดบอกความรุนแรง รู้ก่อนเป็นแผลทะลุ
สาเหตุของสะดือเหม็น
- การติดเชื้อแบคทีเรีย เพราะเป็นจุดอ่อนไหวมีความร้อนและอับชื้น อีกทั้งยังมีเชื้อแบคทีเรียอาศัยอยู่แล้วหลายชนิด เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียมากจนเกิดการติดเชื้อ โดยปัจจัยเสี่ยงที่อาจเพิ่มการติดเชื้อ ได้แก่
- การเจาะสะดือ
- ไม่รักษาความสะอาดบริเวณสะดือ
- การสะสมของเหงื่อ สบู่ หรือสิ่งตกค้างภายในสะดือ
- ติดเชื้อรา เมื่อราเจริญเติบโตมากจนเกินไป อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้เกิดอาการบวมแดง มีกลิ่นเหม็น เกิดอาการคัน หรือมีสิ่งสกปรกออกมา
- โรคเบาหวาน เนื่องจากมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งเชื้อราแบบยีสต์เจริญเติบโตได้จากน้ำตาลเช่นกัน
- การผ่าตัด เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่พบได้มาก เนื่องจากผู้ป่วยอาจติดเชื้อจากการผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดบริเวณสะดือหรือการเจาะรูตรงสะดือเพื่อทำการผ่าตัด เช่น การทำหมันในเพศหญิง เป็นต้น
- ภาวะปัสสาวะรั่วออกทางสะดือตามปกติท่อสะดือที่ต่อระหว่างกระเพาะปัสสาวะกับสะดือจะปิดลงสนิทหลังเราเกิด แต่ในบางกรณีที่ผู้ป่วยมีท่อสะดือที่เปิดออก จะทำให้เกิดการการรั่วไหลของน้ำปัสสาวะที่ส่งกลิ่นเหม็น และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราด้วย
- ซีสต์ในสายสะดือ เป็นการเกิดซีสต์หรือถุงน้ำขึ้นในท่อสะดือที่ไม่ได้ปิดสนิทตั้งแต่หลังเกิดมา ทำให้อาจมีของเหลวสะสมอยู่กลายเป็นถุงน้ำในท่อสะดือจนอาจเกิดการติดเชื้อได้
แม้ปัญหาสะดือเหม็นอาจยังไม่ปรากฏอาการที่รุนแรง แต่หากปล่อยไว้โดยไม่ได้รับการดูแลรักษา อาจมีอาการสะดือเหม็นอย่างเรื้อรัง หรือมีอาการอื่น ๆ ดังต่อไปนี้ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อเกิดขึ้นร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา
- มีไข้
- ผิวสะดือและบริเวณโดยรอบมีสีแดง
- มีหนองไหลออกมาจากสะดือ โดยเฉพาะผู้ที่มีแผลผ่าตัดในบริเวณนั้น
- รู้สึกปวดท้องแบบกดแล้วเจ็บ
- รู้สึกเจ็บปวดขณะปัสสาวะ
8 เหตุผลที่ไม่ควรใส่ “ชุดนอน” ตัวเดิมซ้ำๆ แม้จะไม่เปื้อน
การรักษาสะดือเหม็น
สะดือเหม็นอาจสามารถรักษาให้หายได้หากทราบสาเหตุที่แน่ชัด และรับการรักษาดูแลอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะการรักษาความสะอาดบริเวณสะดือ โดยตัวอย่างการรักษาอาการตามสาเหตุหลักที่มักทำให้เกิด
สะดือดูแลอย่างไร?
- เช็ดทำความสะอาดสะดือให้แห้งทุกครั้งหลังอาบน้ำ
- ล้างทำความสะอาดสะดือทุกวันด้วยสบู่ที่ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียและน้ำเปล่า
- ใช้ผ้าสะอาดหรือสำลีเช็ดทำความสะอาดภายในสะดือ หรืออาจใช้น้ำเกลือล้างทำความสะอาดสะดือแล้วเช็ดให้แห้ง
- ไม่ทาครีมหรือสารเพิ่มความชุ่มชื้นใด ๆ ในสะดือ เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันจนเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราในภายหลังได้
- ไม่สวมเสื้อผ้ารัดรูปจนเกินไป
- ผู้ที่เจาะสะดือ ควรรักษาทำความสะอาดบริเวณสะดืออยู่เสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ขอบคุณข้อมูลจาก : pobpad
“สีประจำเดือน” แบบไหนไม่ปกติอาจแฝงโรค เช็กอาการพบ 1 ข้อ ควรพบแพทย์
วิธีดูแล “ผิวแห้งลอก-มีผื่น” หน้าหนาว ให้กลับมาชุ่มชื้นสุขภาพดี