หนุ่ม ๆ ต้องเฮ! เผยข้อดีของการไม่ใส่กางเกงในของผู้ชาย
“กางเกงใน” นับเป็นสิ่งจำเป็นในการใช้ชีวิต แต่ก็มีคุณผู้ชายจำนวนไม่น้อย เลือกที่จะไม่ใส่มัน แล้วการไม่ใส่กางเกงใน จะมีข้อดีหรือข้อเสียมากกว่ากัน?
จากผลวิจัยหนึ่งที่ผ่านการยืนยันจากผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะของประเทศอังกฤษ ได้ออกมาเปิดเผยว่า แท้จริงแล้ว ผู้ชายไม่ต้องจำเป็นต้องใส่เกงในเลยก็ได้นะ!
จากผลการสำรวจ เผยว่า
“25% ของผู้ชาย มักจะเลือกไม่ใส่กางเกงในเป็นบางครั้ง”
โดยผู้ชาย 13% จากจำนวน 25% ที่ชื่นชอบการไม่ใส่กางเกงในบอกว่า พวกเขาเลือกที่จะไม่ใส่เป็นบางโอกาส ขณะที่ 5% นั้น เลือกที่จะไม่ใส่กางเกงในอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และที่เหลืออีก 7% นั้นไม่ใส่กางเกงในตลอดเวลา
จริงหรือไม่? การใส่กางเกงในมีผลต่อจำนวนสเปิร์ม
ผู้เชี่ยวชาญทางด้านระบบทางเดินปัสสาวะของอังกฤษ ศาสตราจารย์ Eden ก็เห็นด้วยกับทฤษฎีนี้ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงเวลาของการนอนหลับ ไม่ควรใส่กางเกงในเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ไม่อึดอัด เป็นการผ่อนคลายหลังจากที่เจอกับสภาพที่แออัดมาทั้งวัน ซึ่งจะทำให้อัณฑะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้น ในทางกลับกัน หากไม่ใส่กางเกงใน อุณหภูมิในส่วนนั้นก็จะเย็นลง
กล่าวได้ว่า อุณหภูมินั้นมีผลกระทบต่อการสืบพันธ์ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะหากอุณหภูมิร้อนเกินไป จะทำให้ระบบสืบพันธุ์นั้นไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ Eden ยังเคยพูดถึงการใส่กางเกงในไว้ใน The Daily Mail ซึ่งเป็นบทความเกี่ยวกับคนที่อยากมีลูกว่า “ขอแนะนำเลยว่า ให้คุณลองลดการใส่กางเกงในลงบ้าง ถ้าคุณกำลังอยากจะมีลูก”
ข้อดีของการไม่ใส่กางเกงใน
อีกเหตุผลที่คุณผู้ชายควรลดการใส่กางเกงในลงบ้าง คือความชื้นจากเหงื่อ เพราะบางครั้งเหงื่อที่ออกมา ไม่สามารถระบายผ่านกางเกงในได้ทัน จึงเป็นที่มาของอาการคัน และรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ และไม่สบายตัว ถึงแม้ว่ากางเกงในราคาแพงส่วนใหญ่ มักจะมีการออกแบบมาให้มีระบบระบายอากาศ และซึมซับเหงื่ออย่างดี แต่ก็ยังไม่ดีเท่าการไม่ใส่แน่นอน
ส่วนเรื่องที่ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นกังวลในการไม่ใส่กางเกงใน คือการเป็นไส้เลื่อน หรือการหย่อนยาน คำตอบของเรื่องนี้คือ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาเหล่านี้ และมั่นใจได้ว่าการหย่อนยานลงนั้น เป็นเรื่องที่เกิดได้ยาก แต่หากรู้ตัวว่าต้องมีการทำกิจกรรมหนัก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง หรือเล่นกีฬา ก็ยังคงขอแนะนำว่าให้ใส่กางเกงในไว้ก่อน เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ หกล้ม จะช่วยทุเลาอาการบาดเจ็บลงได้มากทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก: รายการ Tech Know Now