10 โรคสูงอายุต้องระวัง ป้องกันอัมพฤกษ์ อัมพาตเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
วันพ่อแห่งชาติ 2566 ปีนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่จะรู้ทันโรคผู้สูงอายุที่อาจจะเกิดกับคุณพ่อหรือคนที่คุณรัก พาเช็กอัพร่างกายเพื่อกางแผนป้องกันสุขภาพอย่างครบวงจร
แม้ตามหลักการจะกำหนดว่าผู้สูงอายุ คือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป แต่ในความเป็นจริงแล้ว เซลล์ในร่างกายของมนุษย์เสื่อมสภาพลงทุกวัน โดยไม่ต้องรอให้ถึงอายุดังกล่าว โดยเฉพาะผู้ที่เข้าสู่ช่วงวัย 50 ปี ที่ร่างกายก็จะเสื่อมลง ซึ่งทำให้มีโรคต่างๆ ตามมามากมาย หากรู้ไม่ทันหรือตรวจสุขภาพเป็นประจำอาจส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังที่เป็นสาเหตุของอัมพฤกษ์ อัมพาต และการเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
มอบของขวัญ “วันพ่อ” ด้วยการตรวจสุขภาพดี 4 ด้านแบบรุ่นใหญ่ป้องกันโรค
ปรับพฤติกรรมลดเสี่ยง “ริดสีดวง” สัญญาณเตือนและวิธีรักษา
10 โรคที่ผู้สูงอายุต้องระวัง
- โรคทางสมอง
พบมากในผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน โรคอ้วน โรคหัวใจ เครียด ขาดการออกกำลังกาย สูบบุหรี่ การเสื่อมของเซลล์สมอง และผู้ที่คนในครอบครับมีประวัติเป็นโรคสมอง ซึ่งส่วนใหญ่จะพบในคนอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป โดยโรคสมองที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ได้แก่ โรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม หรือโรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น
- โรคเกาต์
มักพบในชายสูงอายุมากกว่าหญิง ทำให้เกิดอาการปวดตามข้อ ซึ่งเกิดจากการมีกรดยูริกสะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตามข้อ ซึ่งคนแต่ละวัยมีระดับกรดยูริกในเลือดที่แตกต่างกัน เช่น ผู้หญิงวัยก่อนหมดประจำเดือนจะมีระดับกรดยูริกในเลือดสูงกว่าคนในวัยอื่นๆ หรือการรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง เช่น เนื้อเป็ด เนื้อไก่ เครื่องในสัตว์ ถั่วต่างๆ ก็เป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดกรดยูริกในร่างกายมากเกินไป
- โรคเบาหวาน
อีหนึ่งโรคยอดฮิตในผู้สูงอายุ ที่นำมาซึ่งโรคแทรกซ้อนต่างๆ นับเป็นความผิดปกติของร่างกายที่มีการผลิตฮอร์โมนอินซูลินไม่เพียงพอ อันส่งผลให้ระดับน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกิน ก่อให้เกิดอาการต่างๆ เช่น ปัสสาวะและกระหายน้ำบ่อย ดื่มน้ำในปริมาณมากต่อครั้ง อ่อนเพลีย น้ำหนักตัวลดโดยไม่มีสาเหตุ และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมาได้ เช่น ตาพร่ามัว ตาบอด ไตเสื่อม ชาตามปลายมือปลายเท้า และอาจติดเชื้อได้ง่าย
- โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
ผู้ชายสูงอายุ ส่วนใหญ่เป็นโรคต่อมลูกหมากโตจนกดท่อปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะลำบาก ปัสสาวะบ่อยโดยเฉพาะตอนกลางคืน ปัสสาวะออกไม่หมดทำให้เหลือบางส่วนไว้ในกระเพาะปัสสาวะ อันเป็นสาเหตุของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ ผู้หญิงสูงอายุ มักกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ อาจเกิดจากระบบประสาท สุขภาพจิต กระเพาะหรือทางเดินปัสสาวะผิดปกติ เช่น เกิดการอุดตัน การติดเชื้อ หูรูดไม่ดี
- โรคข้อเข่าเสื่อม
มักพบในผู้หญิงสูงอายุมากกว่าชายถึง 2 เท่า เกิดการใช้ข้อเข่ามานาน การรับน้ำหนักตัวที่มากเกินไป อาการที่พบคือ การเจ็บปวดของข้อและข้อบวม อาการข้อขัด หรือรูปร่างขาโก่งผิดปกติ เหยียดขาได้ไม่สุด โดยเฉพาะคนที่เล่นกีฬาหนักๆ หรือคนที่มีน้ำหนักตัวมากอาจเป็นตัวส่งเสริมให้ข้อเข่าเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น
- โรคกระดูกพรุน
โรคนี้มักเกิดกับผู้หญิงสูงอายุ โดยเฉพาะวัยหมดประจำเดือน เป็นภาวะที่กระดูกมีความหนาแน่นน้อยลง ทำให้กระดูกบางและเปราะหักง่ายขึ้น อาการของโรคนี้ได้แก่ เสียวฟันเนื่องจากการร้าวของฟัน ฟันผุกร่อนหลุดร่วงง่าย หลังงุ้มลง ส่วนสูงลดลง ขาหรือเข่าโก่งออกมากผิดปกติ ปวดเสียวบริเวณข้อต่อต่างๆ และมักปวดกระดูกสันหลัง สะโพก และกระดูกข้อมือ
- โรคทางตา
โรคตาที่ผู้สูงอายุเป็นกันมาก คือ โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก โรคต้อหิน และน้ำวุ้นตาเสื่อม ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุ และมีอาการที่แตกต่างกัน แต่สาเหตุส่วนใหญ่ของโรคตาเกิดจากความเสื่อม เนื่องจากอายุที่มากขึ้น ทำให้การมองเห็นลดลง ดังนั้นเมื่อเกิดอาการผิดปกติ ควรรีบมาพบจักษุแพทย์ทันทีเพื่อทำการวินิจฉัย และรักษาได้อย่างถูกต้อง
- โรคไต
ในช่วงแรกมักไม่แสดงอาการ แต่เมื่อไตเริ่มเสื่อมมากขึ้น จะทำหน้าที่ลดลง และเกิดการคั่งของเสียมากขึ้น ดังนั้นความผิดปกติและอาการก็จะแสดงมากขึ้น เช่น อ่อนเพลีย บวม เหนื่อยง่าย ความดันโลหิตสูง ถ้าอาการเพิ่มมากขึ้นจนอาจนำไปสู่อาการไตวายเรื้อรังจะมีอาการเพิ่มขึ้น เช่น ตัวซีด คันตามตัว เบื่ออาหาร อันนำไปสู่การรักษาอย่างการล้างไต ฟอกเลือด และเปลี่ยนไตในที่สุด
เครื่องดื่มสำหรับผู้สูงอายุ อะไรกินได้ อะไรควรระวังหลีกเลี่ยง
- โรคความดันโลหิตสูง
คนปกติจะมีความดันโลหิต 120/80 – 139/89 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งหากมีความดันมากกว่านี้ จะจัดว่าเป็นผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง ซึ่งโรคนี้ส่วนใหญ่มักไม่มีอาการแสดง แต่บางครั้งอาจมีอาการใจสั่น ปวดศีรษะ หน้ามืด ตาพร่า ถ้าไม่รักษาตั้งแต่เริ่มต้น อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น อัมพฤกษ์ ตาบอด ไตวาย หัวใจวาย เป็นต้น
- โรคหัวใจขาดเลือด
สาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคนี้มาจากหลอดเลือดหัวใจตีบ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ พบมากในผู้ที่เป็นโรค NCDs อาทิเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และพบมากในผู้สูบบุหรี่ อ้วนลงพุง ขาดการออกกำลังกาย หรือคนในครอบครัวเป็นโรคหัวใจยิ่งทำให้มีโอกาสเป็นโรคสูงขึ้น อาการที่สำคัญคือ เจ็บแน่นหน้าอกระหว่างราวนม ลิ้นปี่ คล้ายมีอะไรมากดทับ หายใจไม่สะดวก อาจร้าวไปที่คอ กราม แขนซ้ายด้านใน และอาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น เหงื่อออก ตัวเย็น เวียนศีรษะ หน้ามืด เหนื่อยหอบ นอนราบไม่ได้ ใจสั่น ดังนั้นเมื่อเกิดอาการเจ็บแน่นหน้าอกควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว
ซึ่งโรคและอาการเหล่านี้หากได้รับการตรวจสุขภาพและดูแลโดยแพทย์อยู่สม่ำเสมอจะทำให้อาการไม่หนักและลดภาวะแทรกซ้อนต่างๆลงได้ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตให้กับผู้สูงอายุได้อีกด้วย วันพ่อแห่งชาติปีนี้นับเป็นโอกาสอันดีที่จะมอบสุขภาพที่ดีให้คนที่รักด้วยการพาไปเช็กอัพร่างกาย หากพบรอยโรคหรือภาวะเสี่ยงแพทย์จะได้ทำการรักษาและป้องกันได้อย่างทันท่วงที อย่างไรก็ตามการดูแลสุขภาพไม่ต้องรอให้สูงอายุก่อนก็ทำได้ ทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้โดยการออกกำลังกาย กินอาหารที่ดี และตรวจสุขภาพตามวงรอบได้ตั้งแต่อายุยังน้อยเพื่อให้สูงอายุไปอย่างมีคุณภาพและมีความสุขนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช
ภาพจาก : Freepik
10 ของใช้ผู้สูงอายุ ไอเดียซื้อของขวัญวันพ่อ เพื่อคุณพ่อในวัยเกษียณ
ประวัติ “วันพ่อ” เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อไร-ยังตรงกับ 5 ธ.ค. หรือไม่