"ยานอนหลับ"อาจไม่ใช่ทางออก"คนหลับยาก" กินบ่อย เสี่ยงสารพัดปัญหาสุขภาพ
การนอนหลับ ปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเลือกใช้ยานอนหลับเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อน แต่นั้นไม่ควรเป็นตัวเลือกแรก เพราะหากกินบ่อยเสี่ยงสารพัดปัญหาสุขภาพ ทำให้ระยะการหลับลึกลดลง สภาพร่างกายเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น
หลายคนอาจประสบปัญหาการนอนที่เรื้อรังและต้องพึ่งยานอนหลับอยู่บ่อยครั้ง โดยไม่ได้แก้ไขปัญหาที่ต้นตอ รู้หรือไม่? การกินยานอนหลับบ่อยๆเสี่ยงสารพัดปัญหาสุขภาพ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า “การนอนไม่หลับ” เกิดจากหลายสาเหตุปัญใจทั้งทางกาย ปัญหาสุขภาพ และ พฤติกรรมและสภาวะทางจิตใจและอารมณ์ ที่ขึ้นกับแต่ละบุคคล สิ่งที่จำเป็นต้องแยก คือ เริ่มไม่หลับในช่วงใดของการนอน ได้แก่
- เริ่มต้นล้มตัวลงนอนก็หลับยากแล้ว
- เริ่มหลับได้ไม่ยาก แต่ตื่นกลางดึก หรือสะดุ้งตื่นบ่อย ๆ
กินยานอนหลับบ่อยเสี่ยงดื้อยา นอนไม่หลับรุนแรง แนะวิธีหลับแบบไม่พึ่งยา
วิธีหลับง่าย สำหรับคนมีปัญหาด้านการนอนต้องรู้! เคล็ดลับหัวถึงหมอนปุ๊บหลับปั๊บ!

- เริ่มหลับได้ หลับได้ต่อเนื่อง แต่หลับได้ไม่กี่ชั่วโมงก็ตื่นแล้วหลับต่อไม่ได้
หลายคนมีปัญหาการหลับในหลาย ๆ แบบดังกล่าวร่วมกัน และหาทางออกด้วยวิธีรับประทานยานอนหลับ
รู้หรือไม่ว่า ? ยานอนหลับหลายอย่าง มีผลกดการทำงานของสมอง ให้ช้าลง และเริ่มต้นเข้าสู่ระยะการหลับ
แต่หากบุคคลนั้น มีประวัติสงสัยภาวะหยุดหายใจขณะหลับ เช่นประวัติกรน หลับแล้วไอหรือสำลักอากาศ ยานอนหลับ จะยิ่งมีผลกดการทำงานของสมอง แล้วทำให้มีโอกาสขาดอากาศมากขึ้น ทำให้ระยะการหลับลึกลดลง สภาพร่างกายเสื่อมเร็วยิ่งขึ้น ส่งผลเสียต่อสมอง หัวใจ และหลายๆระบบ นอกจากนี้ร่างกายของท่านยังต้องการยาไปตลอดและมีโอกาสดื้อยามากขึ้นเรื่อย ๆ ยานอนหลับบางอย่าง ยังทาให้ท่านมีพฤติกรรมผิดปกติขณะหลับที่ควบคุมไม่ได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นที่ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการนอนหลับ เพื่อซักประวัติ ตรวจหาสาเหตุและวางแผนการตรวจรักษา
อย่างไรก็ตามอาการนอนไม่หลับโดยการใช้ยานอนหลับอาจไม่ใช่เรื่องต้องห้ามซะทีเดียว! เพียงแต่ไม่ควรใช้ยานอนหลับติดต่อกันเกิน 1-3 เดือน เพราะเมื่อหยุดยาจะทำให้การนอนหลับยากยิ่งขึ้น หากต้องการหยุดหรือปรับยานอนหลับ ควรปรึกษาแพทย์ทุกครั้ง และสิ่งที่สำคัญกว่า คือการตรวจหาสาเหตุของการนอนไม่หลับ เพื่อนำไปสู่แนวทางการรักษาที่ตรงจุด
ข่าวปลอม! ยังไม่มีงานวิจัยชี้ชัด โทรศัพท์ส่งผลต่อคลื่นสมอง ทำให้หลับยาก
ปรับพฤติกรรม! ควรทำควบคู่การรักษา
ในการรักษาอาการนอนไม่หลับนั้น มักเน้นไปที่การปรับพฤติกรรมควบคู่ไปกับการปรับเรื่องฮอร์โมนในรายที่มีความผิดปกติ เช่น ระดับฮอร์โมนขาดความสมดุลเพราะเกิดจากความอ้วน
- ควรเว้นการทานอาหารอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- งดชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน อย่างน้อย 6 ชั่วโมง ก่อนเข้านอน
- ควรงดอาหารรสจัด เพราะจะกระตุ้นการหลั่งของสารสื่อประสาทที่ทําให้เราตื่นตัว และนอนหลับยากมากขึ้น
สำหรับการออกกำลังกายที่หลายคนเข้าใจว่าการออกกำลังกายหนักๆ จะทำให้หลับสบายขึ้นนั้น ก็อาจไม่ถูกต้องทั้งหมด! เพราะหลังออกกำลังกายสมองจะอยู่ในภาวะตื่นตัว มีการหลั่งอะดรีนาลีน ส่งผลให้หลับยากขึ้น จึงควรงดออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน หรือปรับเวลาไปออกกำลังกายในตอนเช้าจะดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ และ โรงพยาบาลพญาไท
“นอนไม่หลับ”มากแค่ไหน? เร่งแก่ เร่งป่วย สมรรถภาพทางเพศลดลง
“เทียนหอม”กลิ่นอโรมาช่วยบำบัดอาการนอนไม่หลับ วิธีเลือกช่วยลดความเครียด