อาการโรคตุ่มน้ำพอง ภูมิคุ้มกันเพี้ยน สาเหตุติดเชื้อในกระแสเลือด
ชวนรู้จัก โรคตุ่มน้ำพอง หรือ โรคภูมิเพี้ยน เผยลักษณะเด่นของโรค สัญญาณและสาเหตุการเกิดโรค รวมทั้งวิธีการรักษา ก่อนรุนแรงเชื้อลามเข้าสู่กระแสเลือด
โรคตุ่มน้ำพอง หรือ Bullous pemphigoid อาจเรียกอีกแบบว่า "ภูมิเพี้ยน" ที่เกิดจากภูมิคุ้มกัน ภูมิต้านทานที่มีหน้าที่คอยต่อสู้กับเชื้อโรค เป็นโรคผิวหนังเรื้อรังที่พบได้ไม่บ่อยมาก สาเหตุเกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันที่มาทำลายโครงสร้างที่ทำหน้าที่ยึดเซลล์ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังหลุดออกจากกันกลายเป็นตุ่มน้ำและแผลถลอกรวมถึง พันธุกรรม การติดเชื้อ การแพ้ยาแพ้สารเคมี
สุดอาลัย “เมฆ วินัย” เสียชีวิต ปิดตำนานพระเอกร้อยล้าน
ผี ไฮแจ็ค ป่วยโรคตุ่มน้ำพอง เตรียมจัดคอนเสิร์ต "เพื่อนไม่ทิ้งเพื่อน" ช่วย!

อาการตุ่มน้ำพอง
อาการโรคกลุ่มนี้บางชนิดพบเฉพาะในเด็ก บางชนิดพบได้ในผู้ใหญ่ พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย โดยมีลักษณะเด่นคือ เป็นตุ่มพองที่ผิวหนังหรืออาจมีตุ่มพองที่บริเวณเยื่อบุต่างๆ ร่วมด้วย ตุ่มน้ำอาจมีขนาดต่างๆ กัน เมื่อตุ่มน้ำแตกจะเกิดแผลถลอกหรือเป็นสะเก็ด ทำให้มีอาการเจ็บมาก ผู้ป่วยในช่วงอายุ 50-60 ปีเกิดจากความผิดปกติที่ชั้นผิวหนังกำพร้าในผิวหนังชั้นตื้น แต่อาจกินบริเวณกว้าง ผู้ป่วยจะมีแผลเหมือนถูกน้ำร้อนลวก และส่วนใหญ่มักมีแผลถลอกในช่องปากร่วมด้วย รวมถึงอาจพบแผลถลอกที่เยื่อบุบริเวณอื่น เช่น ทางเดินหายใจ เยื่อบุช่องคลอดและอวัยวะเพศ บริเวณผิวหนังมีลักษณะเป็นตุ่มน้ำ แตกได้ง่าย กลายเป็นแผลถลอก มีอาการปวดแสบ หรือคัน เมื่อแผลหายมักทิ้งรอยดำโดยไม่เป็นแผลเป็น
ตำแหน่งที่พบบ่อย คือ ศีรษะ หน้าอก หน้าท้อง และบริเวณที่ผิวหนังเสียดสีกัน
ผู้ป่วยบางรายมีแผลที่เยื่อบุในปากเป็นอาการนำของโรค ทำให้กลืนอาหารลำบาก ทั้งอาจลามต่ำลงไปถึงคอหอย และกล่องเสียงทำให้เสียงแหบได้ แผลถลอกที่เกิดขึ้นทั้งที่ผิวหนังและเยื่อบุจะหายช้า เมื่อหายมักไม่เป็นแผลเป็นแต่จะทิ้งรอยดำบนผิวหนังในช่วงแรกและจะจางไป ในรายที่เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนที่ผิวหนัง แผลจะมีลักษณะเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็นหายได้ยาก มักกลายเป็นรอยแผลเป็น
ถ้าเป็นรุนแรง เชื้อโรคอาจเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้มีไข้และอาการทางระบบอื่นๆ ร่วมด้วย และอาจทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้
การรักษาโรคตุ่มน้ำพองขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ผู้ป่วยที่มีอาการมากควรได้รับรักษาในโรงพยาบาลเพื่อทำแผลอย่างถูกวิธี และเฝ้าระวังแผลติดเชื้อ ผู้ป่วยต้องทานยาต่อเนื่องภายใต้การดูแลของแพทย์เพื่อควบคุมให้โรคสงบ
“โรคมอร์เฟีย” รู้สาเหตุ-อาการทางผิวหนังหายากที่ “ดีเจต้นหอม” เป็นมากว่า 10 ปี
ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด คือ ภาวะที่มีแบคทีเรียก่อโรค รุกล้ำในระแสลือด เมื่อร่างกายมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อองค์ประกอบแปลกปลอมของเชื้อแบคทีเรีย ปฏิกิริยานั้นอาจทำให้การทำงานของอวัยวะในร่างกายเกิดความล้มเหลว หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
การติดเชื้อในกระแสเลือดอาจพบเป็นภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อในตำแหน่งอื่นของร่างกาย เช่น ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ,ลิ้นหัวใจ,ทางเดินปัสสาวะ,ทางเดินอาหารและตับ เป็นต้น
อาการที่ควรเฝ้าระวัง
- ไข้สูง หนาวสั่น อ่อนเพลีย ซึม
- หายใจเร็ว หัวใจเต้นเร็ว
- อาเจียน ท้องเสียรุนแรง
ผู้ป่วยที่มีเสี่ยงติดเชื้อในกระแสเลือด
- เด็ก เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่
- สูงอายุ เพราะการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเริ่มเสื่อม
- ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำ
- ผู้ที่มีหลายโรคร่วม เช่น เบาหวาน ไตวายเรื้อรัง เป็นต้น
นอกจากปัจจัยของผู้ป่วยแล้ว ปัจจัยของเชื้อก่อโรคที่เป็นสาเหตุก็เป็นปัจจัยที่สำคัญ เช่น ถ้าเป็นเชื้อที่มีความรุนแรงหรือเป็นเชื้อดื้อยาหลายชนิดก็จะทำให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงได้เช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน , โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
“เซ็บเดิร์ม” โรคผิวหนังคล้ายสะเก็ดเงิน สาเหตุอาการ-วิธีรักษาให้หายขาด
“ผิวหนังอักเสบภูมิแพ้” คันจนเป็นตุ่มน้ำเหลือง วิธีการรักษา-ไม่กำเริบ