สารสกัด "กัญชา" อีกหนึ่งยาความหวังรักษาโรคมะเร็ง
“กัญชา” พืชที่เราเคยรู้จักกันว่าเป็นพืชต้องห้าม แต่ตอนนี้กลายเป็นพืชที่มี “บทบาทสำคัญในด้านการแพทย์” โดยเฉพาะบทบาทใหม่ในการ “รักษามะเร็ง”
ช่วงที่ผ่านมาเรามักได้ยินเกี่ยวกับประเด็นของการใช้สารสกัดจากต้นกัญชาในการรักษาโรคมะเร็ง ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่า แท้จริงแล้วใบกัญชานั้นสามารถนำมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็งได้จริงหรือไม่ ซึ่งแพทย์ได้อธิบายดังนี้
สารสกัดจากกัญชามีประโยชน์ในการรักษากัญชามีสารประกอบที่เรียกว่า Cannabinoids จำนวนมาก โดยมีตัวหลัก คือ THC (Tetrahydrocannabidiol) และ CBD (Cannabidiol) ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์
จุฬาฯวิจัยเครื่องดื่มกัญชา พบ 30 % มีปริมาณสาร THC เกินกำหนด เตือนบริโภคแต่น้อย
อาหารหมักดองตัวการร้าย สร้าง "มะเร็งหลังโพรงจมูก"
ฤทธิ์ของ THC ต่อจิต ประสาท ทำให้ผ่อนคลาย นอนหลับ ลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และกระตุ้นให้อยากอาหาร ส่วน CBD มีฤทธิ์ช่วยลดการอักเสบ ลดอาการชักเกร็ง และมีคุณสมบัติยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้องอกหลายชนิดในหลอดทดลอง
จริงอยู่ที่ว่ากัญชามีประโยชน์ทางการรักษามากมาย แต่ทั้งหมดก็ต้องอยู่บนฐานที่ว่ามีการใช้ที่พอดี และต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์เท่านั้น เรามาดูกันว่ามีข้อกำหนดอะไรบ้าง
พาณิชย์ มั่นใจทุกขั้นตอนคำขอสารสกัด “กัญชา” โปร่งใส
รู้จัก “กัญชา” ให้มากกว่าที่เคยรู้
มีการศึกษาผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์จากกัญชา พบว่า “กัญชา” ช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน จากการทำเคมีบำบัดได้ แต่ทั้งนี้ยังมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น มึนงง ง่วง และอ่อนเพลีย
แม้จะมีข้อมูลการศึกษาที่พบว่า สามารถช่วยรักษาอาการปวดจากมะเร็งได้ แต่การบรรเทาอาการอื่นๆ เช่น อาการเบื่ออาหาร หรือนอนไม่หลับนั้น ข้อมูลการศึกษาก็ยังไม่ชัดเจน
ฉะนั้น การใช้สารสกัดจากกัญชาในกรณีนี้ จึงต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล และต้องเฝ้าระวังโดยติดตามอาการข้างเคียงจากการใช้อย่างใกล้ชิดด้วย
อันตรายจากการใช้ยากัญชาที่ไม่ได้วางแผนการรักษากับแพทย์ (หาซื้อมาใช้เอง)
การใช้ยากัญชาที่ไม่ได้มีการวางแผนการรักษาและไม่ได้มาตฐานการผลิต จะไม่สามารถกำหนดความเข้มข้นของปริมาณสารกัญชา และอาจจะมีสารพิษอื่นๆ เจือปน จึงอาจเกิดอาการข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ง่วงซึม เวียนศีรษะ มองเห็นสีผิดปกติ คลื่นไส้ ความจำลดลง ความดันโลหิตต่ำ ปากแห้ง เกิดความผิดปกติทางจิต เช่น ซึมเศร้า สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาตลอด ห้ามหยุดยา แล้วหันมาใช้ยากัญชาในการรักษา เพราะจะทำให้เกิดอันตรายจนเสียชีวิตได้
จะซื้อผลิตภัณฑ์กัญชาเพื่อการแพทย์เองได้หรือไม่?
สารสกัดกัญชาหรือยากัญชา ไม่มีวางจำหน่ายทั่วไป แม้ผู้ป่วยที่จะได้รับการรักษาด้วยยากัญชา ก็ไม่สามารถซื้อสารสกัดกัญชาใช้เอง แต่ต้องผ่านการวางแผนการรักษาจากแพทย์ นอกจากนี้บุคลากรทางการแพทย์ที่จะให้การรักษาด้วยสารสกัดกัญชา จะต้องผ่านการอบรมมีใบอนุญาตการสั่งจ่ายรักษา ก่อนจะจ่ายผลิตภัณฑ์กัญชาที่ได้รับจากสถานที่ผลิตมาตฐานที่กระทรวงสาธารณสุขรับรอง และต้องพิจารณารักษาด้วยวิธีอื่นก่อน เพราะยากัญชาไม่ใช่ตัวเลือกแรกในการรักษาโรค
สิ่งที่ผู้ป่วยเริ่มใช้สารสกัดกัญชาต้องรู้
เข้าใจข้อมูลเรื่องสารกัญชาก่อนการรักษา : สารสกัดกัญชาไม่ใช่ทางเลือกแรก ในการรักษา, ใช้รักษาเสริมจากการรักษาตามมาตรฐาน มิใช่หยุดการรักษาที่มีอยู่, ผู้ป่วยต้องเข้าใจถึงประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น, การใช้สารสกัดกัญชาที่ได้มาตรฐานและทราบอัตราส่วนสารสำคัญ (THC และ CBD) ที่ชัดเจน
เมื่อเริ่มใช้สารสกัดกัญชา : ควรเริ่มในปริมาณที่น้อยที่สุด หากยังไม่ได้ผล ปรับเพิ่มในปริมาณน้อยๆ ช้าๆ, ควรมีผู้ดูแลอยู่ด้วยเมื่อเริ่มใช้ หากเกิดผลข้างเคียงให้รีบนำผู้ป่วยพบแพทย์ทันที, การให้สารสกัดกัญชาในครั้งแรก ควรให้ในเวลาก่อนนอนและมีผู้ดูแลใกล้ชิด
แจ้งให้แพทย์ทราบว่าใช้ยาประเภทใดอยู่ : เพราะสารสกัดกัญชาอาจส่งผลต่อยาบางชนิดที่ผู้ป่วยใช้เป็นประจำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วย
ในปัจจุบันเรื่องนี้ยังเป็นเรื่องที่ต้องทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมอีกมากไม่ว่าอย่างไร...ก่อนจะตัดสินใจเลือกใช้ “กัญชาทางการแพทย์” มาร่วมในการรักษาโรคต่างๆเราควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด และเป็นข้อมูลที่ถูกต้องจากการทดลองทางการแพทย์ เท่านั้น
รู้ให้ลึกเรื่อง“มะเร็ง” รักษาอย่างถูกวิธีด้วย“เคมีบำบัด”
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลพญาไท