ทำความรู้จัก “ภาวะเมทฮีโมโกลบิน" หลังพบเด็กป่วยจากกินไส้กรอกไร้ยี่ห้อ
เช็ก “ภาวะเมทฮีโมโกลบิน” ผู้ป่วยจะมีอาการขาดออกซิเจน เวียนศีรษะ หายใจเร็ว หากรุนแรงจะมีอาการหอบ ความดันโลหิตต่ำ และร้ายสุดถึงขั้นเสียชีวิต
ภาวะเมทฮีโมโกลบิน เป็นภาวะที่ “ฮีโมโกลบิน” ในเม็ดเลือดแดงทำปฏิกิริยากับสารเคมีกลายเป็น “เมทฮีโมโกลบิน” ซึ่งในภาวะปกติฮีโมโกลบินจะทำหน้าที่จับกับออกซิเจน เมื่อกลายเป็นเมทฮีโมโกลบินจะไม่สามารถจับกับออกซิเจนได้ ทำให้ร่างกายเกิดภาวะขาดออกซิเจน และสีเม็ดเลือดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลดำ
ทั้งนี้ ร่างกายปกติจะมีระดับความเข้มข้นของเมทฮีโมโกลบินประมาณ 1% และมีกลไกรักษาระดับเมทฮีโมโกลบินให้อยู่ในระดับปกติ แต่ถ้าได้รับสารพิษจะทำให้ความเข้มข้นของเมทฮีโมโกลบินมากขึ้น
ศูนย์พิษวิทยา เตือนอย่ากินไส้กรอกไม่มียี่ห้อ-ไม่มีเอกสารกำกับ หลังเด็ก 6 ราย ป่วยภาวะเมทฮีโมโกลบิน
“ภาวะหลับใน” หาสาเหตุได้จากการตรวจสุขภาพการนอน
ข้อมูลจาก นพ.โอภาส การย์กวินพงษ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวถึงกรณีเด็กกินไส้กรอกไม่มี อย. แล้วพบอาการป่วยภาวะเมทฮีโมโกลบิน (Methemoglobin) จำนวน 10 ราย ว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุระหว่าง 1 - 12 ปี ทุกรายมีประวัติกินไส้กรอกที่ไม่มียี่ห้อก่อนมีอาการประมาณ 30 นาที - 1 ชั่วโมง 30 นาที อาการที่พบ ได้แก่ อาเจียน ซึม สับสน หมดสติ ปากเขียวคล้ำ ซีด เวียนศีรษะ ปลายมือเขียวคล้ำ และตรวจพบออกซิเจนปลายนิ้วต่ำ
ทั้งนี้ ไส้กรอกที่ไม่มียี่ห้อหรือไม่ได้มาตรฐาน อาจมีการใช้สารไนเตรทและไนไตรท์ เพื่อเป็นวัตถุกันเสียมากเกินกำหนด โดยทั่วไปในไส้กรอกจะมีสารประเภทไนไตรท์ในปริมาณที่กำหนด เพื่อใช้ในการคงสภาพสีแดงอมชมพูและถนอมอาหาร
ขณะที่ ข้อมูลจากเพจ ศูนย์พิษวิทยา รามาธิบดี โพสต์เตือนตั้งแต่วันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา ให้เฝ้าระวังการบริโภคไส้กรอกจากแหล่งผลิตที่ไม่แน่ชัด ไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะในเด็ก เนื่องจากเด็กจะไวต่อสารกลุ่มนี้มากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งปกติร่างกายคนเราได้รับสารออกซิแดนต์ในขนาดน้อยๆจากแหล่งต่างๆ แต่ไม่เกิดปัญหา เพราะร่างกายสามารถเปลี่ยน methemoglobin กลับเป็นฮีโมโกลบินปกติได้ แต่หากมีปริมาณ methemoglobin สูงมากๆ (ได้รับสารออกซิแดนท์เยอะเกินไป) ร่างกายจะเปลี่ยน methemoglobin คืนเป็นฮีโมโกลบินปกติไม่ทัน นำไปสู่ภาวะขาดออกซิเจน ซึ่งในเด็กความสามารถในการเปลี่ยน จะน้อยกว่าในผู้ใหญ่ เด็กจึงเกิด methemoglobin ได้ง่ายกว่า ผู้ป่วยจะมีอาการขาดออกซิเจน เช่น มึนศีรษะ เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย หายใจเร็ว เขียว หากรุนแรงจะมีอาการหอบเหนื่อยมาก เลือดเป็นกรด ความดันโลหิตต่ำ และเสียชีวิตได้
สำหรับ สารเคมีที่ทำให้เกิดภาวะเมทฮีโมโกลบิน ได้แก่ สารกำจัดวัชพืชบางชนิด อาหารที่มีปริมาณดินประสิว เกินขนาด สีย้อม ลูกเหม็น น้ำดื่มที่ปนเปื้อนปุ๋ยไนเตรท คลอโรเบนซีน
ทั้งนี้ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 418 พ.ศ. 2563 ออกตามความในพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการใช้ และอัตราส่วนของวัตถุเจือปนอาหาร (ฉบับที่ 2) ได้กำหนดปริมาณสูงสุดที่อนุญาตให้ใช้โซเดียมไนไตรท์หรือโพแทสเซียมไนไตรท์สำหรับผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์บดไม่เกิน 80 มก./กก. และโซเดียมไนเตรทหรือโพแทสเซียมไนเตรทไม่เกิน 200 มก./กก.
อย่างไรก็ตามหากมีอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะ เหนื่อย หายใจเร็ว ควรรีบไปพบแพทย์ โดยแพทย์จะรักษาอย่างทันท่วงทีเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสียในที่สุด
ข้อมูล : ศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี