รู้จักโรค NCDs โรคที่คุณสร้างมันขึ้นมาเองทุกวันๆ
โรค NCDs เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ ของคนไทย ภัยเงียบที่ควรเตรียมพร้อมรับมือ
หลายคนอาจไม่รู้ว่า มีโรคมากมายหลายโรคที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค หรือเกิดจากการติดเชื้อมาจากผู้อื่น แต่กลับเป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างไม่ถูกต้องของเราเอง เมื่อเวลาผ่านไปนานวันจึงส่งผลต่อการเกิดโรคที่เรียกว่า “โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง” หรือ NCDs แบบไม่รู้ตัว
มาทำความรู้จักกับโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง NCDs
โรค NCDs หรือ non-communicable diseases คือ กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อโรค และไม่สามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นได้
5 อาชีพต้องระวัง! เสี่ยงกระดูกสันหลังพังไม่รู้ตัว
ฉีด“วัคซีนไข้หวัดใหญ่”ฟรี คนไทย 7 กลุ่มเสี่ยง ทุกสิทธิ เริ่ม 1 พ.ค.นี้
ส่วนใหญ่แล้วโรคในกลุ่มนี้จะมีการดำเนินโรคอย่างช้าๆ คือค่อยๆ สะสมอาการทีละนิดโดยผู้ป่วยไม่รู้ตัว ซึ่งหากไม่ได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำก็มักจะไม่ทราบและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องทันเวลา จนโรคค่อยๆ ทวีความรุนแรงขึ้น และกลายเป็นอาการเรื้อรังในที่สุด จนถึงภาวะอันตรายและส่งผลกระทบต่อชีวิตอย่างมาก เช่น เกิดภาวะติดเตียงภายหลังการเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบหรือแตก มีอาการเหนื่อยหอบเรื้อรังหลังเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นต้น
โรคที่อยู่ในกลุ่มโรค NCDs มีอะไรบ้าง
คุณเองอาจคาดไม่ถึงว่า แค่ใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ที่ไม่ค่อยใส่ใจสุขภาพ อาจส่งผลให้เกิดโรค NCDs เหล่านี้ได้
- โรคเบาหวาน : ภาวะที่น้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอย่างควบคุมไม่ได้ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา เช่น ตาบอด ไตวาย แผลเรื้อรังที่เท้า
- โรคหลอดเลือดหัวใจและสมอง : เกิดจากการเกาะของคราบไขมันภายในผนังหลอดเลือดส่งผลให้หลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจและสมองไม่เพียงพอ นำไปสู่โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย หลอดเลือดสมองตีบ หรือหลอดเลือดสมองแตก อัมพฤกษ์ อัมพาต
- โรคถุงลมโป่งพอง : ถุงลมในปอดเกิดการอักเสบ จนทำให้การแลกเปลี่ยนก๊าซผิดปกติ มักเกิดจากการสูบบุหรี่
- โรคมะเร็ง : เกิดจากเซลล์ในร่างกายมีความผิดปกติ ที่พบมากคือ มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ใหญ่
- โรคความดันโลหิตสูง : เป็นภาวะความดันเลือดภายในหลอดเลือดแดงสูงกว่าปกติ เกิดจากอายุที่มากขึ้น ขาดการออกกำลังกาย ทานอาหารรสเค็ม ทำให้หลอดเลือดแดงแข็งขึ้น แล้วเกิดภาวะหลอดเลือดตีบ
- โรคอ้วนลงพุง : เกิดจากระบบการเผาผลาญผิดปกติ รับประทานของหวาน ของมัน ของทอดมากเกินไป และขาดการออกกำลังกาย ส่งผลให้ไขมันสะสมบริเวณใต้ผิวหนังและในช่องท้อง ทำให้มีรอบเอวใหญ่ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อน ใน เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และนอนกรนได้
พฤติกรรมเสี่ยงที่พาไปสู่โรค NCDs
กลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรังนี้ มีสาเหตุสำคัญมาจากพฤติกรรมในการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการกิน การทำงาน ความเครียด หรือแม้กระทั่งการพักผ่อน หากเราใช้ชีวิตอย่างไม่ระมัดระวัง ละเลยการดูแลสุขภาพ ความเสี่ยงในการเกิดโรคก็มีมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมที่ควรระวังมีดังนี้
- บริโภคอาหารรสหวานจัด เค็มจัด หรืออาหารที่มีไขมันสูง
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- สูบบุหรี่
- ไม่ออกกำลังกาย
- พักผ่อนไม่เพียงพอ
- มีภาวะเครียด
- การรับประทานยาโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เช่น ยาแก้ปวด ยาชุด ยาสมุนไพร ยาลูกกลอน
รับมือ 5 โรคที่มากับอากาศร้อน แดดแรงแค่ไหนก็สุข
ลดเสี่ยงโรคได้ แค่ปรับพฤติกรรม
การมีชีวิตให้ห่างจากกลุ่มโรค NCDs ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างของเราให้ดีขึ้น
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม เน้นการรับประทานผักและผลไม้ที่ไม่หวานจัด
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรสหวานจัด เค็มจัด อาหารที่มีไขมันสูง
- ลดการกินเค็ม ปริมาณโซเดียม < 2,500 mg/วัน (ประมาณเกลือแกง 1 ช้อนชา)
- ลดการกินหวาน ปริมาณน้ำตาล <20 g/วัน (ประมาณน้ำตาล 4 ช้อนชา)
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 30 นาที/ครั้ง ให้ได้สัปดาห์ละ 5 ครั้ง หรือรวม 150 นาที
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- งดสูบบุหรี่
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ผ่อนคลายความเครียด
- ตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ ได้แก่ ค่าน้ำตาลในเลือด (Fasting Blood Sugar), ไขมันในเลือด (Cholesterol, LDL, HDL, Triglyceride), ค่าตับ (AST, ALT), การทำงานของไต (BUN,Creatinine), ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG), เอกซเรย์ปอด (Chest X-ray) และอื่นๆ ตามคำแนะนำของแพทย์
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ไม่ซื้อยารับประทานเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
หยุด NCDs ที่ต้นเหตุด้วยการเลือกกินไขมันให้เหมาะสมและถูกวิธี
เมื่อเราหลีกเลี่ยงอาหารการกินในวิถีการดำเนินชีวิตแบบคนไทยไม่ได้ เมื่อเรายังต้องกินผัด ๆ ทอด ๆ ทุกวัน เพราะมันทั้งอร่อยและง่ายในการปรุง แต่รู้ไหมว่า เราสามารถหลีกเลี่ยงการบริโภคไขมันแบบผิด ๆ ได้ โดยเลือกบริโภคน้ำมันที่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงกว่ากรดไขมันอิ่มตัว เช่น น้ำมันคาโนล่า น้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ที่มีส่วนเพิ่มไขมันดี (HDL) ให้ร่างกายช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และลดไขมันเลว (LDL) ที่จะไปเกาะผนังหลอดเลือด เมื่อต้องปรุงอาหาร ให้เลือกใช้น้ำมันทางเลือก อย่างน้ำมันผสมสูตรต่าง ๆ ที่คิดค้นมาเพื่อการใช้ความร้อนในลักษณะที่ต่างกัน เช่น
- เมื่อต้องการผัด ให้เลือกใช้น้ำมันผสมสูตรน้ำมันคาโนลาผสมน้ำมันเมล็ดดอกทานตะวัน ก็จะได้กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ดีต่อร่างกาย
- หากทำเมนูทอด อาจเลือกน้ำมันผสมสูตรผสมน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันปาล์มที่มีสมดุลกรดไขมันดีเยอะ สามารถทำได้ทั้งทอดและผัด หรือน้ำมันผสมสูตรผสมน้ำมันปาล์มและน้ำมันถั่วเหลือง ซึ่งทำสัดส่วนไขมันอิ่มตัวลดลงเกือบครึ่ง แต่ยังคงทนความร้อนได้ดี เหมาะกับการประกอบอาหารประเภททอด และมีสมดุลกรดไขมันที่ไม่ทำร้ายร่างกายมากจนเกินไป
- ทำน้ำสลัด หรือทำขนมด้วย ใช้น้ำมันผสมสูตรผสมน้ำมันคาโนล่าและน้ำมันถั่วเหลือง เพราะเป็นน้ำมันสูตรที่มีสัดส่วนกรดไขมันดีมาก สามารถทานแบบไม่ต้องผ่านความร้อนได้เลย และยังสามารถนำไปใช้ผัดได้อีกด้วย
- ไขมันเป็นสารอาหารให้พลังงานที่จำเป็นต่อร่างกาย เราจึงไม่ควรงดทานไขมันไปเลย แต่ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม และเลือกกินไขมันที่ดี วิธีในเลือกกินไขมันดีที่ง่ายที่สุดคือ การเลือกใช้น้ำมันที่ให้ไขมันดีในการทำอาหารกินเองที่บ้าน
เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมไขมันเลวในร่างกาย และไม่ตกเป็นเหยื่อของโรค NCDs โรคที่ทำร้ายคนไทยและคนทั่วโลกมานักต่อนัก...อย่าลืมว่าการบริโภคของเรา คือสุขภาพของเรา เราเลือกได้
เปิด 10 อันดับ "ข่าวปลอม" คนสนใจมากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลสุขภาพจาก โรงพยาบาลพญาไท