ข้อมูลโรค-อาการห้ามขึ้นเครื่องบิน วิธีเตรียมตัวปลอดภัยตลอดการเดินทาง
ช่วงปลายปีหลายคนวางแพลนเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่แล้ว ซึ่งการขึ้นเครื่องบินนับว่าเป็นทางเลือกที่รวดเร็ว ไปไหนก็ได้รอบโลก แต่ก็มีข้อจำกัดบางอย่างบางโรคที่ควรกังวล เผยโรคและอาการที่ห้ามขึ้นเครื่อง วิธีเตรียมตัวก่อนออกเดินทาง!
จากสถิติการเกิดอุบัติเหตุจากการบิน แสดงให้เห็นว่าการโดยสารเครื่องบินมีความปลอดภัยกว่าการขับรถหลายเท่า ในปี 2023 ไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่รายเดียวจากเที่ยวบินของสายการบินพาณิชย์จำนวน 37 ล้านเที่ยวบิน แต่ความกังวลกลับอยู่ภายในห้องโดยสารมากกว่า เนื่องจากภาวะภายในห้องโดยสารที่มีระดับความดัน อุณหภูมิ ออกซิเจนที่ผันผวน และระดับความชื้นที่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพ
นอกจากนี้การอยู่ภายในห้องที่ระบบอากาศปิดกับผู้คนอีกนับร้อย และต้องเดินทางผ่านเขตเวลาในการบินระยะไกล ต่างมีผลกระทบต่อความเจ็บป่วยได้เช่นกัน
ในบางคนระหว่างโดยสารเครื่องบินอาจเกิดผลกระทบกับร่างกายเล็กน้อย เช่น รู้สึกไม่สบายหู เจ็ตแล็ก และภาวะขาดน้ำ แต่บางคนอาจเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง หรือทำให้การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (Deep vein thrombosis: DVT) แม้อาการจะไม่รุนแรงในเบื้องต้น แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รักษา อาจทำให้เกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ปอดและเสียชีวิตได้
การเตรียมตัวขึ้นเครื่องบิน
- การเตรียมตัวสำหรับการเดินทางด้วยเครื่องบิน อาจขึ้นอยู่กับระยะเวลาการเดินทางและภาวะสุขภาพของแต่ละบุคคล ดังนี้
- ก่อนเดินทางควรพักผ่อนให้เพียงพอ
- ก่อนเดินทางควรหลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่ เพื่อป้องกันท้องไส้ปั่นป่วน
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทาง และพกยาประจำตัวให้เกินจากจำนวนที่ต้องใช้ เผื่อกรณีฉุกเฉิน
- ระหว่างเดินทางให้สวมเสื้อผ้าที่หลวมและใส่สบาย
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ ด้วยการจิบน้ำบ่อยๆ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือยานอนหลับ
- เก็บสัมภาระไว้เหนือศีรษะ เพื่อให้มีพื้นที่บริเวณขามากขึ้น
- ขณะเดินทางหากเป็นการเดินทางระยะไกล ให้ลุกขึ้นเดิน ยืดเส้นยืดสาย
- เปลี่ยนกิจวัตรการนอนก่อนบินเพื่อลดความเสี่ยงของเจ็ตแล็ก
- คาดเข็ดขัดตลอดเวลา ขณะนั่งอยู่บนเก้าอี้ และตั้งใจฟังคำแนะนำของเจ้าหน้าที่บนเครื่องบิน
โรคและอาการของโรคที่ห้ามขึ้นเครื่องบิน
ผู้ป่วยหรือผู้ที่มีปัญหาสุขภาพ ควรศึกษาข้อจำกัดการโดยสารของแต่ละสายการบิน ก่อนตัดสินใจใช้บริการ เนื่องจากสายการบินแต่ละแห่งมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ซึ่งส่วนใหญ่แนะนำให้ผู้ป่วยที่มีปัญหาสุขภาพควรพบแพทย์ก่อนเดินทางเพื่อลดความเสี่ยง และควรมียาประจำตัวพกพาในกระเป๋าที่ถือขึ้นเครื่อง สำหรับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องบิน มีดังนี้
- เด็กแรกเกิดอายุต่ำกว่า 7 วัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงความกดดันอากาศในเครื่องบิน
- ทารกคลอดก่อนกำหนด ต้องใช้เวลาในการเจริญเติบโตของปอด
- หญิงที่มีอายุครรภ์เกิน 36 สัปดาห์
- ผู้ป่วยที่ไม่สามารถควบคุมอาการได้ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด หัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวายเรื้อรัง
- ผู้ป่วยที่ผ่าตัดต่อเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจ หรือ ผ่าตัดบายพาสหัวใจ ไม่ควรเดินทางภายใน 2 สัปดาห์ ภายหลังผ่าตัด
- ผู้ป่วยโรคลิ้นหัวใจผิดปกติ และมีอาการเหนื่อยหอบ
- ผู้ป่วยโรคปอดที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
- ผู้ป่วยภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่ไม่สามารถหายใจเองได้
- ผู้ป่วยโรคปอดบวม โรควัณโรคปอด ที่อยู่ในระยะแพร่เชื้อ
- ผู้ป่วยโรคลมชักที่ยังควบคุมอาการไม่ได้
- ผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับอุบัติเหตุและสมองกระทบกระเทือน ไม่เกิน 15 วัน
- ผู้ที่ได้รับการฉีดสีตรวจเส้นเลือดในสมองไม่เกิน 3 วัน
- ผู้ป่วยโรคทางจิตเวช ที่อาการยังไม่สงบ
- ผู้ที่ได้รับการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ไม่ถึง 24 ชั่วโมง
- ผู้ป่วยโรคไซนัสหรือโรคหูอักเสบเฉียบพลัน
- ผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่อาจมีอาการทรุดลงระหว่างเดินทาง
ผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการบิน
เครื่องบินเป็นพื้นที่จำกัด ผู้คนจำนวนมากต้องสัมผัส อยู่ใกล้ชิดกัน แม้ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (Centers for Disease Control and Prevention : CDC) จะแนะนำให้ผู้ที่เป็นโรคเฉียบพลันหรือติดเชื้อ เช่น ไข้หวัดใหญ่ และโควิด-19 ควรชะลอการเดินทางออกไป แต่ก็ยังพบผู้ฝ่าฝืนอยู่เสมอ การโดยสารเครื่องบินอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสจากการสัมผัสโดยตรง เช่น การสัมผัสพื้นผิวเดียวกันกับผู้ที่มีการติดเชื้อเฉียบพลัน และด้วยความดันอากาศในห้องโดยสาร อาจทำให้ตาแห้ง หรือทำให้อาการเรื้อรังบางอย่างรุนแรงขึ้น รวมถึงความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้นจนอาจส่งผลต่อหัวใจและปอดได้อีกด้วย
H. Pylori คืออะไร? ปล่อยเรื้อรัง เสี่ยงเป็นเชื้อก่อมะเร็งกระเพาะอาหาร
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา อาการที่พบบ่อยบนเครื่องบิน ได้แก่
- เป็นลม
- คลื่นไส้ อาเจียน
- อาการทางระบบทางเดินหายใจ
- อาการชัก
- ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ
- เหตุฉุกเฉินที่มักเกิดขึ้นในการเดินทางทางอากาศ
- การกระทำของมนุษย์
- การตัดสินใจที่ผิดพลาด ขาดความรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆ
- สภาพอากาศ เช่น ฝนตก หมอก พายุ
- อายุการใช้งานของเครื่องบิน
- ความผิดปกติของเครื่องยนต์
- อาการต่างๆ ที่มักจะเกิดขึ้นระหว่างเดินทาง
- โรคกลัวเครื่องบิน (Aerophobia) ให้พยายามหันเหความสนใจของตัวเองด้วยการพูดคุยกับผู้โดยสารคนอื่นๆ ดูหนัง อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือรับประทานอาหารแทน
- ปวดหู หูอื้อ (ear barotrauma)
- ภาวะขาดน้ำ (Dehydration)
- เจ็ตแล็ก (Jet lag)
แม้การเดินทางด้วยเครื่องบินจะเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ แต่คนจำนวนมากเลือกเดินทางโดยเครื่องบินเพิ่มขึ้น ซึ่งก่อนการเดินทาง การเตรียมตัวทั้งก่อนและระหว่างการเดินทางจึงมีความสำคัญ ยิ่งในกลุ่มที่มีโรคประจำตัวควรที่ปรึกษาแพทย์ เตรียมยาและอุปกรณ์จำเป็นก่อนเดินทางให้พร้อม หากมีปัญหาสุขภาพหรือมีอาการผิดปกติสามารถ ปรึกษาแพทย์ทางออนไลน์ (Virtual Hospital) และบริการเติมยาออนไลน์ ส่งถึงบ้าน
ทั้งนี้การเดินทางควรปฏิบัติตัวด้วยความระมัดระวัง มีสติ พร้อมฟังคำแนะนำของพนักงานบนเครื่องบิน เพื่อไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างปลอดภัย ปราศจากโรคภัย และมีความสุขกับการท่องเที่ยว
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
H. Pylori คืออะไร? ปล่อยเรื้อรัง เสี่ยงเป็นเชื้อก่อมะเร็งกระเพาะอาหาร
เซลล์มะเร็งกระเพาะอาหาร เผยสาเหตุของโรคอาจเกิดจากติดเชื้อ H.pylori