แพทย์เผย 20% ของประชากรเสี่ยงโรคซึมเศร้า รู้ทันอาการแต่ละช่วงวัย
โรคซึมเศร้าเกิดจากความผิดปกติของสมอง ความเครียดหรือพันธุกรรม ส่งผลให้เศร้าหนัก ไม่อยากทำอะไร นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร และอาจคิดทำร้ายตนเอง ควรรักษาอย่างเหมาะสม
โรคซึมเศร้าเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้ จากสถิติพบโรคซึมเศร้าประมาณ 20% ของประชากรทั่วไป หากรีบรักษาย่อมเพิ่มโอกาสหาย แต่หากปล่อยไว้อาจกระทบกับการใช้ชีวิตจนอยากทำร้ายตัวเองได้ จึงควรเข้าใจโรคซึมเศร้าและรับมืออย่างถูกต้องทางการแพทย์ยืนยันว่าโรคซึมเศร้าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสมอง โดยมีสาเหตุหนึ่งมาจากการเผชิญกับความเครียดเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้สมองสูญเสียความสมดุล หรือในบางคนเกิดจากภาวะทางพันธุกรรมบางอย่างที่ถ่ายทอดส่งต่อกันมา
Freepik/EyeEm
โรคซึมเศร้า
อาการโรคซึมเศร้า
อาการของโรคซึมเศร้าจะเศร้าจนไม่อยากทำอะไร จากเดิมที่เป็นคนแอ็กทีฟกระฉับกระเฉงจะกลายเป็นไม่มีแรง ไม่ อยากทำอะไร ที่สำคัญกระทบกับการนอน การกิน และบางคนเกิดความคิดอยากทำร้ายตัวเองได้
สังเกตอาการซึมเศร้าของตนเองได้อย่างไร
วิธีสังเกตอาการซึมเศร้าของตนเองได้ง่าย ๆ คือ
- ระดับพลังงานชีวิตลดลง ไม่อยากทำอะไร นอนไม่หลับ
- หยุดคิดเรื่องต่าง ๆ ไม่ได้
- ไม่มีสมาธิ รู้สึกไม่ดีกับตนเอง
- เบื่ออาหารหรืออยากอาหารมากเกินไป
- เริ่มมีความคิดอยากทำร้าย ตนเอง ฯลฯ
สังเกตอาการคนใกล้ชิดว่าเป็นซึมเศร้าได้อย่างไร
วิธีสังเกตอาการคนใกล้ชิดที่เป็นซึมเศร้าให้ดูพฤติกรรมในภาพรวมว่าเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน เช่น จากเดิม เป็นคนสนุกสนานร่าเริงเปลี่ยนเป็นคนเงียบ เก็บตัว ไม่ชอบพูดคุย ไม่อยากทำอะไร เป็นต้น แนะนำให้พูดคุยซักถามว่า ช่วงนี้เป็นอย่างไร ทำไมช่วงนี้เงียบ ๆ ไป เป็นต้น
ในแต่ละช่วงวัยอาการซึมเศร้ามีความแตกต่างกันหรือไม่อย่างไร
- วัยรุ่น มีฮอร์โมนพลุ่งพล่าน อาการแสดงของโรคซึมเศร้าอาจจะเป็นอาการใจร้อนขึ้น รู้สึกอารมณ์เสียตลอดเวลา
- คนวัยทำงาน มีพฤติกรรมลักษณะอาการแสดงของโรคซึมเศร้าที่เกี่ยวกับงานมากขึ้น เช่น เครียดในงาน หรือมีปัญหาความสัมพันธ์ ฯลฯ
- ผู้สูงวัย ส่วนใหญ่อาการแสดงของโรคซึมเศร้าในผู้สูงอายุมักมีความเกี่ยวข้องกับความเสื่อมของสมอง บางครั้งแสดงออกในลักษณะซึมเศร้าหรือวิตกกังวล โดยมากจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกาย เจ็บตรงนั้น ปวดตรงนี้ ไปหาหมอหลายที่ บางครั้งเป็นอาการแสดงโรคซึมเศร้าในผู้สูงวัย
- ผู้หญิงหลังคลอด บางครั้งเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน จากเดิมที่ทารกในครรภ์มีฮอร์โมนแบบหนึ่ง หลัง คลอดจะมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนแบบวูบลงมาอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้เกิด อาการซึมเศร้าหลังคลอดได้ เช่น คุณแม่ซึมลง คุณแม่ร้องไห้ง่าย ฯลฯ
แนวทางการรักษาโรคซึมเศร้า
ปัจจุบันมีหลายแนวทางในการรักษาโรคซึมเศร้า ได้แก่
- การใช้ยา ปัจจุบันยาที่ใช้ในการรักษาโรคซึมเศร้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลข้างเคียงน้อยลงเมื่อเทียบกับในอดีต
- การทำจิตบำบัดหรือการพูดคุย มีหลากหลายเครื่องมือและหลากหลายวิธีการในการทำจิตบำบัด ซึ่งผู้ป่วยแต่ละ คนมีลักษณะความต้องการในการรักษาที่แตกต่างกันออกไป
เทคโนโลยีการรักษาโรคซึมเศร้าในปัจจุบัน
- การรักษาโรคซึมเศร้าด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเป็นวิธีการรักษาที่มีใช้มานานและมีประสิทธิภาพสูง ปัจจุบันมีหลายรูปแบบ แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
ซึมเศร้ากับไบโพลาร์ต่างกันหรือไม่
ซึมเศร้ากับไบโพลาร์เป็นคนละโรคกัน โรคไบโพลาร์คือโรคอารมณ์สองขั้ว ระหว่างขั้วซึมเศร้าและขั้วมีความสุข แอ็กทีฟและไฮเปอร์สุด ๆ ซึ่งจะสลับไปมาระหว่างสองขั้วนี้ แต่โรคซึมเศร้าจะไม่มีการสลับขั้วของอารมณ์จะมีแต่ขั้วของซึมเศร้า
ป้องกันโรคซึมเศร้าได้อย่างไร
- พยายามบาลานซ์ชีวิตให้ดี เพราะชีวิตมีหลายด้านทั้งเรื่องงาน ครอบครัว งานอดิเรก สิ่งที่สนใจ สิ่งที่อยากทำ เราจำเป็นจะต้องทำทุกอย่างให้รอบด้านเพื่อให้ชีวิตมีความสมดุลมากที่สุดและช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคซึมเศร้า
ทั้งนี้ไม่อยากให้ทุกคนกลัวการเข้ามาคุยกับจิตแพทย์ เพราะการเข้ามาคุยกับจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาเป็นการพูดคุยกับคนที่สามารถคุยได้ทุกเรื่องและช่วยกันแก้ปัญหาได้ ถ้าวันหนึ่งที่รู้สึกเครียด จัดการอารมณ์และชีวิตไม่ได้ แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางเพื่อหาทางออกที่ถูกต้อง
ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลกรุงเทพ สำนักงานใหญ่