โควิด "โอมิครอน" เสี่ยงติดเชื้อซ้ำมากกว่าระลอกก่อน 7 เท่า
โอมิครอนทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำมากกว่าระลอกก่อนถึง 7 เท่า เสี่ยงป่วยรุนแรงมากขึ้น และเกิดลองโควิด
รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat อัพเดตสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในไทยและทั่วโลก โดยส่วนหนึ่งของโพสต์ได้กล่าวถึงโอมิครอนและเรื่องลองโควิดโดยระบุว่า
อัพเดตเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโควิด-19
1. Omicron ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำมากกว่าระลอกก่อนถึง 7 เท่า
ข้อมูลล่าสุดจาก Office for National Statistics ของสหราชอาณาจักร ที่เผยแพร่เมื่อ 22 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา เปรียบเทียบความเสี่ยงในการเกิดติดเชื้อซ้ำ ระหว่างระลอก Omicron กับระลอกก่อนหน้า
จับตา BA.4 / BA.5 อาการรุนแรงจริงหรือไม่ ด้านยอดผู้ป่วย รพ.ราชวิถี เพิ่มขึ้น
เหนื่อยง่าย หลังป่วยโควิด-19 รู้ชัดจะหายหรือไม่ ต้องดูแลอย่างไร
พบว่า ระลอก Omicron ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำมากกว่าระลอกก่อน 7 เท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคนที่ไม่ฉีดวัคซีน, กลุ่มคนที่เคยมีประวัติติดเชื้อมาก่อนแต่มีอาการน้อย หรือไม่มีอาการ, และกลุ่มคนที่อายุไม่มาก
อย่างไรก็ตาม ต้องเน้นย้ำว่า ไม่ว่าจะวัยใด เพศใด กลุ่มอาการใด ฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีนมาก่อนก็ตาม ล้วนมีโอกาสติดเชื้อซ้ำได้มากในยุค Omicron หากไม่ป้องกันตัวให้ดี การติดเชื้อซ้ำ มีงานวิจัยชี้ให้เห็นแล้วว่าจะเสี่ยงต่อการป่วยรุนแรงมากขึ้น และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้นหลายเท่า นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อเกิดภาวะผิดปกติระยะยาวอย่าง Long COVID อีกด้วย
2. Long COVID ในสหราชอาณาจักร
Thompson EJ และคณะ จากสหราชอาณาจักร ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยในวารสารทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ระดับสากล Nature Communications เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา
โดยศึกษาจาก 10 การศึกษาที่มีการติดตามผู้ป่วยที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 พบว่ามีอัตราการเกิดภาวะ Long COVID นานตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไปถึง 7.8-17%
ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าปัญหา Long COVID นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และเป็นเรื่องท้าทายสำหรับทุกประเทศในการเตรียมรับมือ ทั้งเรื่องระบบการดูแลรักษา ติดตามประเมินผล ฟื้นฟูสภาพ บริการสนับสนุนด้านสังคม การใช้ชีวิต และการทำงาน รวมถึงภาระค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นระยะยาวต่อตัวผู้ป่วย ครอบครัว และสังคม
อย. อนุมัติใช้ยาฉีด Evusheld เพื่อป้องกันโรคโควิด-19
โอมิครอน Ba.5 แพร่ได้ดีกว่าเดิม ดื้อต่อภูมิคุ้มกันถึง 3 เท่า