ปิดศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ 30 ก.ย. รองรับการปรับโควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง
ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนบางซื่อ แจงการปิดศูนย์ฉีดฯ 30 ก.ย. เป็นแผนที่วางไว้ ลั่นไม่ได้ปิดเร็ว เป็นการยืดเวลามาจาก 31 ส.ค. รองรับการปรับโควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ เปิดเผยถึงแผนการปิดศูนย์ฉีดวัคซีนสถานนีกลางบางซื่อ ว่า เป็นแผนที่วางไว้ล่วงหน้า 90%
หากสถานการณ์โควิด-19 ยังคงที่อยู่ และโรคโควิด-19 จะเปลี่ยนจากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อเฝ้าระวังในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 สถานการณ์การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น จะเริ่มทำการเร่งฉีดวัคซีนเข็ม 3 เข็ม 4 ให้มากขึ้นจากเป็น 60-70% ตามที่ตั้งเป้าไว้
“อนุทิน”เผยหลังเสนอ ศบค.ปรับลดชั้นโควิด-19 พ.ร.กฉุกเฉินยังจำเป็น
จับตาที่ประชุม ศบค. หารือแผนรับมือประกาศโควิดเป็นโรคเฝ้าระวัง 1 ต.ค.
และเป็นช่วงเวลาที่ประชาชนที่จะรอวัคซีนรุ่นใหม่ ต้องเริ่มมาฉีดวัคซีนกระตุ้น ช่วง สิงหาคม - กันยายน เนื่องจากว่า วัคซีนรุ่นใหม่ ของอเมริกา หรือยุโรป อาจจะได้วัคซีนประมาณเดือน กันยายน - ตุลาคม ซึ่งคาดว่าประเทศไทยอาจจะได้วัคซีนรุ่นใหม่ปีหน้า
พญ.มิ่งขวัญ ระบุอีกว่า การปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ไม่ได้ปิดเร็ว แต่ตอนนี้เป็นการยืดเวลาการปิด จากตอนแรก 31 สิงหาคม 2565 มาเป็น 30 กันยายน 2565 เพื่อจะรองรับประชาชนที่ยังไม่ได้มารับวัคซีนเข็มกระตุ้น ให้มารับวัคซีน ซึ่งในวันที่ 30 กันยายนนี้ จะปิดแน่หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์โควิด-19 ว่าจะมีการระบาดเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่
แต่ก็ยังมีแผนสำรอง คือ แผนที่ 1 หากเกิดการระบาดเพิ่มขึ้น จำเป็นต้องใช้วัคซีนและใช้ศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ก็สามารถเปิดต่อได้ แผนที่ 2 มีการปิดชั่วคราว และต้องมีความจำเป็นต้องเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนอีก ก็สามารถเปิดต่อได้ภายใน 1 วัน เพราะครุภัณฑ์ต่าง ๆ ก็จะเก็บรักษาไว้ที่สถานีกลางบางซื่อในพื้นที่ของการรถไฟฯ ที่ยังไม่ได้เปิดใช้งาน
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ
ตอนนี้มีการถอดบทเรียนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พันธมิตรและเครือข่าย ว่าหากมีภาวะฉุกเฉินเช่นนี้เกิดขึ้นอีก จะต้องดำเนินการอย่างไร ระดมคน ทรัพยากร เทคโนโลยีอย่างไร ซึ่งขณะนี้มีการถอดบทเรียนและเตรียมรับมือในรูปแบบฉากทัศน์ไว้เรียบร้อยแล้ว
โดยที่ผ่านมาศูนย์ฉีดกลางบางซื่อ ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ประมาณ 6.3 ล้านโดส ขณะที่ประชาชนที่มาฉีดวัคซีนที่ศูนย์บางซื่อตั้งแต่เข็ม 1 ตอนนี้มีมารับวัคซีนเข็ม 3 คิดเป็นกว่า 70% เข็ม 4 คิดเป็น 60% ส่วนประชาชนทั่วไปยังน้อยอยู่ 40-50% จึงอยากเชิญชวนให้คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นมาฉีดวัคซีนก่อน เพราะหากเกิน 4 เดือน ภูมิคุ้มกันจะตกลงได้
การฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่อาจจะคล้ายไข้หวัดใหญ่คือ โรคไม่รุนแรง ไม่ระบาดหนัก ก็อาจจะไปฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาล และสถานพยาบาลทั่วไป ไม่ต้องใช้ศูนย์ขนาดใหญ่ แต่หากเกิดสถานการณ์ที่รุนแรง จะต้องระดมฉีดวัคซีน ซึ่งอาจจะเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนกลางลางซื่ออีกครั้ง ซึ่งก็พร้อมเปิดอยู่แล้ว ภายใน 1 วัน หากมีความต้องการ
ทั้งนี้ พญ.มิ่งขวัญ ระบุว่า อยากให้มองว่าการประกาศปิดให้บริการที่ศูนย์ฉีดกลางบางซื่อ เป็นการส่งสัญญาเชิงบวก ว่าประเทศไทยกำลังก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปได้ เนื่องจากตัวเลขการติดเชื้อเริ่มมีการติดน้อยลง จากการรายงาน และจะเห็นจากคนใกล้ตัวว่า เมื่อตรวจหาเชื้อด้วย ATK ผลบวก ก็ไม่ค่อยรายงานกัน อันที่จริงตัวเลขผู้ติดเชื้อก็เยอะอยู่ คนที่รายงานเสียชีวิต เฉลี่ยวันละ 30 ราย คนทั่วไปอาจมองว่าปกติ แต่หากเกิดขึ้นกับคนที่ใกล้ตัว ก็คือความสูญเสีย จึงอยากให้ประชาชนมาฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น เพราะมีความจำเป็น ในการช่วยลดอัตราการป่วยหนัก และเสียชีวิตลงได้