วัคซีนไฟเซอร์เด็กเล็กถึงไทยพรุ่งนี้ คิดออฟฉีดทั่วประเทศ 12 ต.ค.
สธ.เผยวัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็ก 6 เดือน-4 ปี ถึงไทยพรุ่งนี้ หลังตรวจรับรองเสร็จจะคิกออฟฉีดพร้อมกันทั่วประเทศ 12 ต.ค. 2565
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมชี้แจงแนวทางการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ในเด็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี แก่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด พร้อมกล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2565 โรคโควิด-19 ได้ปรับจากโรคติดต่ออันตรายเป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้การควบคุมโรคประสบความสำเร็จ คือ การฉีดวัคซีนโควิด-19
สธ.เผยติดโควิดอาการน้อยแนะกักตัว 5 วัน หากต้องไปทำงานให้ใส่แมสก์ 2 ชั้น
“หมอยง” ถอด 15 บทเรียนจากโควิด-19 ตลอดระยะเวลา 3 ปีของการระบาด
ปัจจุบันฉีดได้กว่า 143 ล้านโดส ทำให้คนไทยส่วนใหญ่มีภูมิคุ้มกัน และปัจจุบันได้ขยายการฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี ซึ่งจะคิกออฟวันที่ 12 ตุลาคมนี้ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี จึงมีการจัดประชุมชี้แจงแนวทางการให้บริการวัคซีนเด็กกลุ่มนี้แก่บุคลากรทางการแพทย์ทั้งประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความเชื่อมั่นในการให้บริการอย่างปลอดภัย
สำหรับกลุ่มอื่นๆ พบว่าเมื่อโรคลดความรุนแรงลง ทำให้ความต้องการฉีดวัคซีนลดลงตามไปด้วย ดังนั้น ย้ำว่าเข็มกระตุ้นยังมีความจำเป็น ขอให้ฉีดกระตุ้นอย่างน้อย 4 เดือนจากเข็มล่าสุด โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 (กลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป กลุ่มป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์) ควรรับถึงเข็มที่ 4 โดยขอให้พื้นที่ช่วยกันรณรงค์ฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2565
ด้าน นพ.ธเรศ กรัษนัยวริวงค์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้มสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี จะมาถึงวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบรับรองรุ่นการผลิตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะจัดส่งไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกแห่ง เพื่อให้กระจายต่อในพื้นที่ ตามจำนวนที่มีการแจ้งความประสงค์ และเริ่มคิกออฟพร้อมกัน วันที่ 12 ตุลาคมนี้ ซึ่งขณะนี้มีผู้ปกครองสมัครใจให้เด็กรับวัคซีนแล้วเป็นจํานวนมาก โดยสามารถฉีดร่วมกับวัคซีนพื้นฐานชนิดอื่นได้
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ปัจจุบันเด็ก 6 เดือน ถึง 4 ปี เป็นกลุ่มเดียวที่ยังไม่ได้รับวัคซีนซึ่งช่วงการระบาดของโอมิครอนพบว่าเด็กกลุ่มนี้มีการป่วยและอัตราเสียชีวิตสูงกว่าเด็กโต 3 เท่า สำหรับการซักซ้อมวันนี้ได้เน้นย้ำให้ฉีดวัคซีนตามแนวทาง
โดยเด็กเล็กจะใช้ปริมาณวัคซีนน้อยลง คือ ขนาด 3 ไมโครกรัม จำนวน 0.2 มิลลิลิตร ฉีด 3 เข็ม เข็มสองห่างจากเข็มแรก 1 เดือน และเข็มสามห่างเข็มสอง 2 เดือน หลังฉีดให้สังเกตอาการ 30 นาที และติดตามต่อจนครบ 1 เดือน โดยให้จัดจุดบริการแยกจากกลุ่มวัยอื่น
เพื่อป้องกันความสับสนในการใช้วัคซีน สำหรับข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง สหรัฐอเมริกามีการฉีดและติดตามล้านกว่าโดส พบว่ามีผลข้างเคียงน้อยกว่าเด็กโต ไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงถึงเสียชีวิต ถือว่าปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก และยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะ MIS-C จากการติดเชื้อด้วย
ทั้งนี้ ขอย้ำว่าหลังจากนี้มีการผ่อนคลายต่างๆ จึงมีความเสี่ยงติดเชื้อมากขึ้นทั้งผู้ใหญ่และเด็ก แต่วัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ให้ป่วยหนักได้ง่าย เมื่อเด็กไม่ป่วย พ่อแม่ผู้สูงอายุในบ้านจะลดความเสี่ยงด้วยเช่นกัน
“หมอยง” ถอด 15 บทเรียนจากโควิด-19 ตลอดระยะเวลา 3 ปีของการระบาด
เตรียมเปิดฉาก APL 2022 รายการใหญ่สุด ROV พร้อมเช็กตารางการแข่ง