กรมการแพทย์เปิด 3 ข้อแตกต่างการรักษาผู้ป่วยโควิดแบบ OPD และ HI
กรมการแพทย์เปิด 3 ข้อแตกต่างแนวทางการรักษาผู้ป่วยโควิดแบบ “ผู้ป่วยนอก” และแบบ “แยกกักตัวที่บ้าน” พบโทรติดตามอาการแค่ครั้งเดียว ไม่ให้อุปกรณ์ตรวจประเมิน และไม่มีบริการส่งอาหาร ต่างจาก HI
กรมการแพทย์ เปิดเผย แนวทางการรักษาโควิด 19 รูปแบบผู้ป่วยนอก หรือ “เจอ แจก จบ” (OP with self isolation : OPD) เพื่อเตรียมเข้าสู่ภาวะโรคประจำถิ่น (Endemic) ซึ่งเป็นการดูแลรักษาทางเลือก เมื่อผู้ติดเชื้อโควิด 19 ที่ไม่มีภาวะความเสี่ยงและมีความพร้อม สมัครใจเข้าประเมินอาการ แล้วรับยาที่คลินิกทางเดินหายใจ (ARI Clinic) หรือคลินิกสงสัยผู้ติดเชื้อ (PUI) นำกลับไปรักษาตัวเองที่บ้าน โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินภาวะเสี่ยงและพิจารณาให้ยาตามอาการ
เช็กที่นี่! สภากาชาดไทย เปิดจองฉีดวัคซีนเข็ม 3 "โมเดอร์นา" ฟรี อายุ 30 ปีขึ้นไป
สำหรับการคัดกรองเข้ารับการบริการโควิด 19 แบบผู้ป่วยนอกนั้น มีข้อมูลดังนี้
- หากมีอาการของระบบทางเดินหายใจ มีประวัติสัมผัสผู้ติดเชื้อ ให้ประเมินอาการด้วยตนเอง
- ถ้าเข้าข่ายสงสัยให้ตรวจ ATK ด้วยตนเอง
- พบผลเป็นบวก หรือขึ้น 2 ขีด โทรหาสายด่วน 1330 หรือเข้ารับบริการที่ ARI/PUI Clinic เพื่อประเมินความเสี่ยงและความพร้อม
- กรณีไม่มีภาวะเสี่ยง และมีความพร้อม สามารถเลือกรับบริการแบบผู้ป่วยนอก (OPD) และแยกกักตัวที่บ้าน (Home Isolation: HI)ได้
- กรณีมีความเสี่ยง และอาการไม่มาก สามารถเข้าระบบดูแลแบบแยกกักตัวที่บ้าน (HI), Hotel Isolation หรือ Hospitel ตามความสมัครใจ
- กรณีมีภาวะเสี่ยง อาการมากและรุนแรง จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
ส่วนความแตกต่างของรูปแบบการรักษา ระหว่างแบบ “ผู้ป่วยนอก” (OPD) และแบบ “แยกกักตัวที่บ้าน” (HI) คือ การรักษาแบบ “ผู้ป่วยนอก” (OPD) จะเน้นให้รักษาตัวที่บ้าน จ่ายยาตามอาการ และมีระบบส่งต่อเมื่ออาการแย่ลง แต่จะมีการโทรติดตามอาการเพียงครั้งเดียวที่ 48 ชั่วโมง ไม่มีการให้อุปกรณ์ตรวจประเมิน และไม่มีบริการส่งอาหาร เหมือนกับการรักษาแบบ “แยกกักตัวที่บ้าน” (HI)