โควิดวันนี้ ยอดRT-PCR รวม ATK พุ่งทะลุ 7.2 หมื่นราย เช็ก 10 จังหวัดติดเชื้อสูงสุด
สถานการณ์โควิดวันนี้ พบติดเชื้อรายใหม่พุ่ง ยอดรวม RT-PCR กับ ATK ทะลุ 7.2 หมื่นราย ศบค.เผยแนวโน้มเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้น วอนกลุ่มเสี่ยงรีบรับวัคซีน
ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 10 มี.ค. 2565 โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 22,984 ราย จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ 22,937 รายผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 47 ราย ผู้ป่วยสะสม 888,422 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) หายป่วยกลับบ้าน 24,161 ราย หายป่วยสะสม 699,517 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 220,334 ราย เสียชีวิต 74 ราย
กรมควบคุมโรค เตือนช่วงหน้าร้อน ระวัง “โรคฮีทสโตรก”
เปิดเกณฑ์ใหม่“UCEP COVID Plus” อาการแบบไหนรักษาฟรี หลังประกาศใช้ 16 มี.ค.
เมื่อนำผลตรวจแบบRT-PCR จำนวน 22,984 รายกับผลตรวจแบบATK จำนวน 49,494 ราย มารวมกันพบว่าวันนี้มียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 72,478 ราย
สำหรับ 10 จังหวัดยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดมีดังนี้
1.กรุงเทพมหานคร 3,192 ราย
2.นครศรีธรรมราช 1,228 ราย
3.ชลบุรี 978 ราย
4.สมุทรปราการ 927 ราย
5.นนทบุรี 794 ราย
6.สมุทรสาคร 759 ราย
7.พระนครศรีอยุธยา 550 ราย
8.ภูเก็ต 523 ราย
9. ฉะเชิงเทรา 493 ราย
10.ปทุมธานี 475 ราย
ด้าน พญ.สุมนี วัชรสินธุ์ ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า แนวโน้มการติดเชื้อทั้งกลุ่มผู้ป่วยปอดอักเสบ ผู้เสียชีวิต และ ผู้ติดเชื้อรายวันจะเห็นได้ว่าผู้ป่วยที่ใส่ท่อหายใจตัวเลขจะอยู่1 ใน 3 ของจำนวนผู้ป่วยที่มีอาการปอดอักเสบ และ จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบก็เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนหน้านี้อยู่ที่หลักร้อยตอนนี้ขึ้นมาอยู่ในหลักพันแล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตมีทิศทางสูงขึ้นค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะวันนี้ยอดเสียชีวิตนิวไฮ ซึ่งต้องมีการไปศึกษาเพิ่มเติมและก็มีการรายงานทุกวันว่ารายละเอียดของผู้เสียชีวิตมาจากปัจจัยอะไรบ้าง
“อนุทิน” ชี้ ปลายเดือนมิ.ย.ไทยเริ่มเปลี่ยนโควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น
โอมิครอน BA.2 ครองไทยเกินครึ่ง “ แพร่เร็วกว่าเดิม 1.4 เท่า
อย่างไรก็ตามถ้ามาดูยอดผู้เสียชีวิตในระลอกใหม่นี้ยังอยู่ที่ 02.20 % ขณะที่ยอดติดเชื้อรายวันทั้ง RT-PCR กับ ATK ก็ยังทรงๆอยู่ไม่ได้สูงมาก
ส่วนการคาดการณ์การเสียชีวิตจะเห็นได้ว่าทิศทางสูงขึ้นเรื่อยๆ และ เป็นการเตือนให้เราระมัดระวังว่าการเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจะต้องมีการจัดการ โดยสิ่งที่เห็นผลมากที่สุดคือ นำผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตไปรับวัคซีนไม่ว่าจะเป็นเข็ม 1 เข็ม 2 เข็ม 3 ก็ตาม
ทั้งนี้นอกจากกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ ก็ยังมีผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง และ ต้องย้ำอีกครั้งโรคที่ใความเสี่ยง เช่น โรคไตระยะสุดท้าย โรคมะเร็ง โรคอ้วน และ ผู้ป่วยติดเตียง ถ้าฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มครบ 3 เดือนก็ให้รีบมารับวัคซีนเข็มกระตุ้นได้ทันที จะได้ลดการป่วยหนัก และ การเสียชีวิต
พญ.สุมนี กล่าวอีกว่า ที่ประชุมกระทรวงสาธารณสุข และ ที่ประชุมศบค.เมื่อช่วงเช้าวันนี้ได้มีการพูดคุยกันอย่างต่อเนื่องเรื่องการรณรงค์เร่งรัดการฉีดวัคซีน ให้กับผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเสี่ยง และ ได้ตั้งเป้าการฉีดวัคซีนกลุ่มผู้สูงอายุ และ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ก่อนช่วงเทศกาลสงกรานต์ควรจะได้รับวัคซีนครอบคลุมอย่างน้อย 70 % โดยกำหนดให้สัปดาห์ที่มีการรณรงค์เร่งรัดการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น คือ 21- 31 มี.ค. 2565 จึงขอความร่วมมือคณะกรรมการทุกจังหวัดให้จัดทำแผนร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำรวจคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ให้มาได้รับวัคซีนโดยเร็ว
ทั้งนี้ ต้องย้ำว่า ผู้ที่ได้รับวัคซีนครบ 2 เข็ม ลดอัตราการเสียชีวิตลดลงได้ 6 เท่ากับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีด ถ้าฉีด 3 เข็ม ลดการเสียชีวิตได้ถึง 41 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ไม่ได้รับวัคซีนเลย