เปิดขั้นตอน-ช่องทาง "บริจาคอวัยวะ" ร่วมเป็นผู้ให้ ส่งต่อชีวิต
การบริจาคอวัยวะ ถือเป็นการสร้างประโยชน์และความสุขอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ส่งต่อให้ผู้ป่วยที่รอคอย การปลูกถ่ายอวัยวะได้ถึง 8 คน ซึ่งการรับรู้การบริจาคอาจไม่กว้างขวางและยังมีความเชื่อที่ส่งผลกระทบต่อจิตใจ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจช่วยให้คุณตัดสินใจและสบายใจขึ้น
จากกรณีที่ หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” อุทิศร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่ ให้นักศึกษาแพทย์ใช้ศึกษา หลังรักษาอาการป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายมานานกว่า 1 ปี และจากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 5 ธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้สังคมเริ่มให้ความสนใจเกี่ยวกับการบริจาคร่างกายและอวัยวะมากขึ้น
โดยการมอบอวัยวะ คือการอุทิศอวัยวะและร่างกายให้นักศึกษาแพทย์ใช้ศึกษา ผู้บริจาคต้องเสียชีวิตจากภาวะสมองตายเท่านั้น (ยกเว้น ไต 1 ข้าง, ตับ, ไขกระดูก เป็นต้น ที่สามารถบริจาคได้ตอนยังมีชีวิตอยู่)
“หมอกฤตไท” บริจาคร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ สร้างบุญใหญ่ส่งต่อความรู้แพทย์
ย้อนไทม์ไลน์ “หมอกฤตไท” เจ้าของเพจ “สู้ดิวะ” ต่อสู้กับมะเร็งปอด
ซึ่งจะรับเฉพาะผู้บริจาคที่เสียชีวิตจากสาเหตุธรรมชาติ และมีอวัยวะครบหลังผ่าตัด เพื่อนำอวัยวะไปให้ผู้ป่วยที่ได้รับบริจาค แพทย์จะตกแต่งร่างกายของผู้บริจาคให้เรียบร้อย
จากนั้นแพทย์จะมอบให้ญาติไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาหลังจากการเสียชีวิต โดยญาติต้องแจ้งให้ไปรับร่างภายใน 24 ชั่วโมง และหลังการศึกษา 2 ปี ทางคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลนั้น ๆ จะประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลให้เอง
“ศิริราช”ขาดแคลนเลือดทุกหมู่ ชวนคนไทยบริจาคเลือดช่วยเหลือผู้ป่วย
คุณสมบัติผู้บริจาคอวัยวะ ทั่วไปต้องมีรายละเอียดดังนี้
- อายุไม่เกิน 65 ปี
- เสียชีวิตจากภาวะสมองตาย
- ปราศจากโรคติดเชื้อ และโรคมะเร็ง
- ไม่เป็นโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน, หัวใจ, โรคไต, ความดันโลหิตสูง, โรคตับ และไม่ติดสุรา
- อวัยวะที่จะบริจาคต้องทำงานได้ดี
- ปราศจากเชื้อที่ถ่ายทอดทางการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ไวรัสตับอักเสบชนิดบี, ไวรัสเอดส์ ฯลฯ
- ควรแจ้งเรื่องการบริจาคอวัยวะให้บุคคลในครอบครัวหรือญาติรับทราบด้วย
วิธีแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะ
- เว็บไซต์ www.organdonate.in.th
- แอปพลิเคชัน "บริจาคอวัยวะ" ของสภากาชาดไทย
- สะดวก ง่าย แจ้งความจำนงได้ทุกที่ทุกเวลา
- ได้รับบัตรประจำตัวผู้บริจาคพร้อมใบประกาศเกียรติคุณในรูปแบบ E-Card.
- สามารถแก้ไขอัปเดตข้อมูลได้ตลอด
- แชร์ให้ญาติรับทราบเรื่องการบริจาคอวัยวะได้รวดเร็ว
- ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย,เหล่ากาชาดจังหวัดทุกแห่งและโรงพยาบาลประจำจังหวัด ทั่วประเทศ
- เมื่อศูนย์รับบริจาคอวัยะฯ ได้รับข้อความแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะของท่านแล้ว ศูนย์ จะส่งบัตรประจำตัวผู้มีความจำนงบริจาคอวัยวะให้ตามที่อยู่ที่ได้ระบุไว้
- หลังจากที่ท่านได้รับบัตรประจำตัวผู้มีความจำนงบริจาคอวัยวะจากศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ แล้ว อย่าลืมกรอกชื่อ และรายละเอียดการบริจาคลงในบัตร
- กรุณาเก็บบัตรประจำตัวผู้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะไว้กับตัวท่าน หากสูญหายกรุณาติดต่อกับศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย
สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมการบริจาคอวัยวะได้ที่
- ศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทยอาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) ชั้น 5 ถนนอังรีดูนังต์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
- เว็ปไซต์ www.organdonate.in.th
- โทรศัพท์ 02-256-4045 หรือสายด่วนโทรศัพท์ 1666
สิทธิประโยชน์ผู้บริจาคอวัยวะ
- ได้รับการลดหย่อนค่ารักษาพยาบาล ในโรงพยาบาลสังกัดสภากาชาด OPD และ IPD 50% โดยลดหย่อนห้องพิเศษและค่าอาหาร
- ตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาลในสังกัดสภากาชาดฟรีปีละ 1 ครั้ง
- ขอพระราชทานเพลิงศพหรือดินฝังศพได้เป็นกรณีพิเศษ
โดยทายาทจะได้รับสิทธิเหล่านี้ ต่อเมื่ออวัยวะของผู้บริจาคได้นำไปปลูกถ่าย
ทั้งนี้ สามารถบริจาคทุนทรัพย์เพื่อสมทบทุนค่าใช้จ่ายในกระบวนการบริจาคอวัยวะ-ดวงตา โดยบริจาคให้ศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 023-008166-5 ชื่อบัญชี “ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย” ธนาคารกรุงไทย สาขาสุรวงศ์
ข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2566
- มีผู้แสดงความจำนง 109,122 คน
- ผู้บริจาคแล้ว 364 คน
- ผู้ได้รับการปลูกถ่าย 775 คน
- ผู้รออวัยวะ 6,555 คน
ข้อมูลจาก : โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ฉีดวัคซีนโควิด-19 บริจาคโลหิตได้ เช็กเงื่อนไข - การเตรียมตัว
8 ข้อดีเมื่อ "บริจาคโลหิต" มากกว่าการให้ผู้อื่นคือสุขภาพดีของตนเอง