แพทย์หลายสำนัก ยันอย่ากังวลหลังจีนเปิดประเทศ ยันเป็นโควิดสายพันธุ์รับมือได้
จากกรณีที่ประเทศจีนเตรียมผ่อนคลายมาตราการโควิด19 เปิดประเทศในวันที่ 8 มกราคมนี้ทำให้หลายประเทศเริ่มกังวลเนื่องจากจีนยังคงมีผู้ติดเชื้อโควิดสูงต่อเนื่อง ขณะที่แพทย์ไทยหลายสำนักขออย่ากังวลเชื่อสามารถรับมือได้
ข้อมูล จีเสด หรือ ฐานข้อมูลกลางโควิด19 ประเทศจีน มีการอัพโหลดข้อมูลสายพันธุ์โควิด ที่ระบาดในช่วงเดือนธันวาคม 408 ตัวอย่าง พบว่า สายพันธุ์หลักที่ระบาดเป็น
- อันดับ 1 คือ เชื้อโอมิครอน BA.5.2 มี 103 ตัวอย่าง หรือ 25 เปอร์เซนต์
- รองลงมาเป็นเชื้อโอมิครอน BF.7 มี 94 ตัวอย่าง หรือ 23 เปอร์เซนต์
ซึ่งเชื้อทั้ง 2 ตัวนี้ ไม่ใช่เชื้ออุบัติใหม่ แต่มีต้นตระกูลเป็น เป็นเชื้อโอมิครอน BA.5 ซึ่งเคยระบาดในไทยมาแล้ว
อนุทิน แจงรับมือนทท.จีน เท่าเทียมทุกชาติ เตรียมแผนซื้อประกันสุขภาพก่อนเข้าไทย
จีนระส่ำ โควิดพ่นพิษหนัก ผู้ป่วยทะลักโรงพยาบาลเมืองใหญ่
ด้าน ศ.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี จึงมองว่า เชื้อโควิดในจีน ตอนนี้ ส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ที่เก่ากว่าของไทย เมื่อนำข้อมูล 3 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม – ธันวาคม 65 เปรียบเทียบ ระหว่าง เชื้อโควิดที่ระบาดมากที่สุดในจีน 2 ตัว ได้แก่ BA.5 และ BF.7 เปรียบเทียบกับเชื้อที่กำลังระบาดในไทย อย่าง BA.2.75 ได้ผลดังนี้ เชื้อโอมิครอน BA.2.75 มีศักยภาพในการระบาดมากกว่าเชื้อโอมิครอน BA.5.2 ถึง 63 เปอร์เซนต์ และมีศักยภาพระบาดมากกว่าเชื้อโอมิครอน BF.7 ถึง 9 เปอร์เซนต์ หมายความว่า เชื้อโอมิครอนทั้ง BA.5.2 และ BF.7 ยากที่จะฝ่าด่านเชื้อโอมิครอน BA.2.75 และกินพื้นที่การระบาดในไทย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าจับตามอง และต้องเฝ้าดูต่อเนื่อง ศ.วสันต์ ระบุว่า รุ่นลูกของเชื้อโอมิครอน XBB.1 อย่างเชื้อโอมิครอน XBB.1.5 ที่พบการกลายพันธุ์ 1 ตำแหน่ง ที่ F486P ซึ่งทำให้มันสามารถหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกัน และเกาะที่เซลล์ได้ดี แน่นที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำให้สามารถแพร่ระบาดได้รวดเร็ว แต่ความรุนแรงยังไม่แตกต่างจากเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม โดยเชื้อโอมิครอน XBB.1.5 ตอนนี้กำลังระบาดในสหรัฐอเมริกา 40 กว่าเปอร์เซนต์แล้ว และใช้เวลาในระบาดเข้ามาแทนที่เชื้อโอมิครอน BQ.1 ในระยะเวลาเพียง 2 สัปดาห์ เพราะฉะนั้นเชื้อที่น่าจับตามองคือ เชื้อโอมิครอน XBB.1.5 ที่คาดว่า อาจจะเป็นสายพันธุ์ที่ระบาดไปทั่วโลกในปีนี้ ทั้งนี้ ยังดี ที่ XBB.1.5 ยังสามารถตรวจหาเชื้อด้วย ATK – PCR ได้และ ยาที่ใช้ในปัจจุบัน ยังสามารถต้านทานได้
หลายชาติประสานเสียงตรวจโควิดนักเดินทางจีน ยึดหลักวิทยาศาสตร์
ด้าน กระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยข้อความของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ประกอบด้วย
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา
“จากตัวอย่างการถอดรหัสไวรัสในประเทศจีน ขณะนี้เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ได้รุนแรงกว่าสายพันธ์ที่ระบาดอยู่ทั่วโลก ดังนั้นการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อโดยธรรมชาติ จากสายพันธุ์ที่ล้ำหน้ากว่าที่ระบาดอยู่ในจีน จึงทำให้เกิดความเบาใจว่าจะไม่มีการระบาดที่รุนแรง จากนักท่องเที่ยวชาวจีน”
ศ.นพ.ธีรวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“การที่นักท่องเที่ยวจากจีนจะเดินทางเข้าไทยไม่ต้องตระหนกมาก เพราะเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอนที่เกิดขึ้นที่ประเทศจีน เป็นสายพันธุ์ที่มีอยู่ทั่วโลก ระบาดไม่รุนแรงมาก ดังนั้นมาตรการที่ไทยเตือนไว้เหมาะสมแล้วที่กำหนดให้นักท่องเที่ยวจากจีน ต้องมีประกันสุขภาพตรวจหาเชื้อก่อนเข้าประเทศ 48 ชั่วโมงและต้องใช้มาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์”
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าโรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ
“ถึงเวลาที่เราต้องอยู่ร่วมกับโควิด 19 อย่างมีสติ เชื้อมีการกลายพันธุ์ต่อเนื่อง สามารถเกิดขึ้นในประเทศไหนก็ได้ ไม่ใช่เฉพาะจีน”
"เราต้องเตรียมตัวเองให้ดี เร่งฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น สร้างสุขนิสัยที่ดี สวมหน้ากาก เมื่ออยู่ในที่แออัด อากาศถ่ายเทไม่ดี เว้นระยะห่างและหมั่นล้างมือ"
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ที่ปรึกษาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
“คนจีนนำรายได้เข้าประเทศเราไม่น้อย ดังนั้นสิ่งที่เราควรระวังไม่ใช่ระวังเขา แต่เรา ต้องลดความเสี่ยง ใส่หน้ากาก เว้นระยะ ล้างมือบ่อยๆ ยังทำได้ไม่ว่ากับโควิด 19 สายพันธุ์ไหน วัคซีนยังมีอยู่ให้รีบไปฉีดเลย ไม่ต้องรอ”
สธ. แจง วิจัยสหรัฐฯ ฉีดวัคซีนบ่อยเพิ่มความเสี่ยงติดโควิด ขาดความน่าเชื่อถือใช้กับไทยไม่ได้
คุณสมบัติ “ซุปเปอร์แวเรียนท์” โควิดสายพันธุ์ผสมระบาดหนักในอเมริกา