ซีเซียม-137 สารกัมมันตรังสีอันตราย สัมผัสอาจผิวไหม้พุพอง สะสมนานก่อมะเร็งได้
จากกรณีที่วัสดุกัมมันตรังสี ซีเซียม 137 (Cs-137) ได้สูญหายไปจากโรงงานไฟฟ้า บริเวณนิคมอุตสาหกรรม จ.ปราจีนบุรี
เตือนประชาชนผู้พบเห็นห้ามเข้าใกล้หรือจับเด็ดขาด ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเตือน สัมผัสอาจไหม้พุพอง สะสมนานเสี่ยงกระทบระบบพันธุกรรมเสี่ยงมะเร็งปอด-มะเร็งเม็ดเลือดขาว
โดยประชาชนมีความกังวลถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น จากข้อมูลพบว่า ซีเซียม 137 (Cs-137) เป็นอันตรายทางอาหารประเภทอันตรายทางเคมีหากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานทำให้เกิดความผิดปกติในระดับโครโมโซมหรือพันธุกรรม หรือ เป็นสารก่อมะเร็งได้
ข้อมูลจาก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่าซีเซียม-137 (Cs-137) เป็นไอโซโทปกัมมันตรังสีของธาตุซีเซียมซึ่งเป็นผลผลิตฟิชชั่น (fission products)
เกิดจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิชชั่น (nuclear fission) ที่ใช้เป็นตัวชี้วัดการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีเมื่อเกิดการรั่ว เช่น อุบัติเหตุของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เนื่องจากมี % Yield สูงกว่า fission products ตัวอื่นๆ ทำให้ซีเซียมกระจายอยู่ทั้งในดิน น้ำ และเข้าสู่วงจรอาหาร อาหารที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ได้แก่ ผัก ผลไม้ นม อาหารทะเล และอาหารที่แปรรูปจากวัตถุดิบทางการเกษตร นอกจากนี้ซีเซียม 137 เป็นสารกัมนัมตรังสี ที่มีลักษณะโลหะอ่อนมาก สีทองเงิน เป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง แต่มักจะจับตัวกับตลอไรด์ กลายเป็นผงผลึก ปล่อยรังสีเบต้าและแกรมม่าใช้ประโยชน์ในโรงงานนอกจากนี้ยังใช้เป็นเครื่องมือทางการแพทย์รักษามะเร็งด้วย
อันตรายจากสารเคมี ซีเซียม-137 ซึ่งแบ่งออกได้ 3 กลุ่มอาการ
- ระบบผลิตเลือด
- ระบบทางเดินอาหาร
- ระบบประสาทกลาง
ซีเซียม-137 เป็นอันตรายทางอาหาร(food hazard) ประเภทอันตรายทางเคมี(chemical hazard) สารซีเซียม-137 เมื่อเข้าสู่ร่างกายบางส่วนจะถูกขับออกจากร่างกายทางเหงื่อและปัสสาวะ และบางส่วนจะตกค้างและสะสมในกล้ามเนื้อ ตับ ไขกระดูก หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานทำให้เกิดความผิดปกติในระดับโครโมโซมหรือพันธุกรรม หรือ เป็นสารก่อมะเร็ง อย่างไรก็ตามความผิดปกติจะมากหรือน้อยขึ้นกับปริมาณรังสีและระยะเวลาที่ร่างกายได้รับ ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554 เรื่องมาตรฐานอาหารที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี กำหนดให้ “อาหารมีการปนเปื้อนซีเซียม-134 และซีเซียม-137 รวมกันไม่เกิน 500 เบคเคอเรลต่อกิโลกรัม (Bq/kg) หรือ เบคเคอเรลต่อลิตร (Bq/l)”
นอกจากนี้ ผู้ที่ได้รับสารในปริมาณมาก อาจเกิดอาการกับกดไขกระดูก(ระบบเลือด) และกลุ่มอาการทางเดินอาหารรวมทั้งระบบหัวใจหลอดเลือด หรือระบบประสาทด้วย
ระยะแรก อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร ผื่นแดงตามผิวหนัง ผมร่วง แผลเปื่อย คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย ซึ่งจะเริ่มมีอาการได้ตั้งแต่ 1 ชั่วโมงถึง 2 วันหลังโดนรังสี อาการเป็นได้นานเป็นนาทีถึงหลายๆ วัน หากปล่อยเอาไว้ไม่ได้รับการรักษา อาจส่งผลกระทบต่อปริมาณเม็ดเลือดขาว เม็ดเลือดแดงและเกร็ดเลือด ทั้งหมดลดระดับลงเรื่อยๆ ในเวลาหลายๆสัปดาห์ และจะเสียชีวิตในเวลา 2-3 เดือน ผู้ป่วยมักเสียชีวิตจากการติดเชื้อในกระแสเลือด หรือเลือดออกมากและไม่สามารถหยุดได้
ขณะที่ โลหะซีเซียมเมื่อสัมผัสกับผิวหนังเกิดอาการไหม้อย่างรุนแรงเป็นพิษเมื่อเข้าสู่ร่างกาย สารประกอบของซีเซียมทั่วไปเป็นพิษไม่มากนัก แต่ที่เป็นพิษอย่างแรงก็มี เช่น CsCN และซีเซียมแกลเลียมซัลเฟต
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ , rama.mahidol