WHO ยกระดับ “XBB.1.16” เป็นโควิด-19 สายพันธุ์ต้องให้ความสนใจ (VOI)
อนามัยโลกประกาศให้ สายพันธุ์ “XBB.1.16” หรือ “อาร์คทูรัส” เป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ที่ต้องให้ความสนใจ (VOI)
องค์การอนามัยโลก (WHO) ยกระดับโควิด-19 สายพันธุ์ “XBB.1.16” หรือที่มีชื่อเล่นว่า “อาร์คทูรัส (Arcturus)” ตามชื่อดาวที่สว่างที่สุดในซีกโลกเหนือ ให้เป็น “สายพันธุ์ต้องให้ความสนใจ (VOI)” หลังพิจารณาว่า มีคุณสมบัติบางอย่างเหนือโควิด-19 สายพันธุ์ย่อยอื่น ๆ
WHO พบว่า XBB.1.16 มีความได้เปรียบในการเติบโตมากว่า และมีความสามารถในการหลบเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกันมากกว่า ทำให้ประเมินแล้วว่า “XBB.1.16 อาจแพร่กระจายไปทั่วโลกและมีส่วนทำให้จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นได้”
“อนุทิน” ยันโควิด XBB.1.16 ไม่รุนแรงกว่าเดิม แนะหน่วยงานสร้างความเข้าใจปชช.
แพทย์ยัน โควิด XBB.1.16 ยังไม่น่ากังวลอาการไม่รุนแรง
กรมวิทย์ฯ จับตาโควิด XBB.1.16 แนวโน้มเพิ่ม ไทยพบแล้ว 27 ราย เสียชีวิต 1 คน
อย่างไรก็ตาม WHO ยืนยันว่า อย่าเพิ่งตื่นตระหนก “ในปัจจุบัน ยังไม่มีสัญญาณของความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น การประเมินความเสี่ยง XBB.1.16 เบื้องต้นยังดำเนินอยู่และคาดว่าจะเผยแพร่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า”
XBB.1.16 ถูกตรวจพบครั้งแรกในอินเดียเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2023 ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นตัวการที่ทำให้เกิดผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ สายพันธุ์นี้ยังเริ่มระบาดมากในสหรัฐฯ คิดเป็น 7.2% ของผู้ป่วยโควิด-19 ทั้งหมดในประเทศ
จนถึงขณะนี้ มีการรายงาน XBB.1.16 ใน 31 ประเทศทั่วโลก และ ณ วันที่ 2 เมษายน 2023 คิดเป็น 4.2% ของลำดับเชื้อไวรัสที่อัปโหลดไปยังฐานข้อมูล GISAID เพิ่มขึ้นมากพอสมควรจาก 0.5% ของเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2023
รายงานโดยสังเขปจากแพทย์ในอินเดียยังตั้งข้อสังเกตว่า XBB.1.16 อาจเกี่ยวข้องกับอาการ “คันตา” หรือ “ตาแฉะ” รวมถึงมีไข้สูงและไอ โดยเฉพาะในเด็กที่ติดเชื้อ ไวรัสอื่น ๆ เจ้าโควิด-19 สายพันธุ์นี้ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบหรือตาแดงได้ แต่จนถึงขณะนี้ อาการนี้พบได้ค่อนข้างน้อยในผู้ป่วยโควิด-19 และอาจสร้างความสับสนกับโรคอื่นได้
นอกจาก XBB.1.16 แล้ว สายพันธุ์โควิด-19 ที่ WHO กำลังจับตาอย่างใกล้ชิดคือ XBB.1.15 โดยถูกจัดเป็นสายพันธุ์ที่ต้งองสนใจเช่นเดียวกัน จากความเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อคุณสมบัติต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อ การหลีกเลี่ยงระบบภูมิคุ้มกัน หรือความรุนแรงของโรค
มีการรายงาน XBB.1.5 ใน 96 ประเทศ และปัจจุบันคิดเป็น 50.8% ของลำดับพันธุกรรมที่อัปโหลดไปยังฐานข้อมูล GISAID
ในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2023 ดร.มาเรีย ฟาน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านโควิด-19 ของ WHO กล่าวเตือนว่า โลกยังคงอยู่ในภาวะโรคระบาดและภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข แม้ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ดีกว่าเมื่อ 3 ปีก่อนก็ตาม
ฟาน เคอร์โคฟ กล่าวว่า “หนึ่งในความไม่แน่นอนครั้งใหญ่ที่เราต้องเผชิญในอนาคตคือตัวไวรัสเอง มันไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่คาดเดาได้เสมอไป มันยังคงพัฒนาอยู่เรื่อย ๆ”
เธอเสริมว่า “หนึ่งในสายพันธุ์ที่เรากำลังจับตาดูอยู่คือ XBB.1.16 ซึ่งจริง ๆ แล้วมีความคล้ายคลึงกับ XBB.1.5 มาก มีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมในโปรตีนหนาม ซึ่งในการศึกษาในห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่าทำให้มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากศักยภาพในการก่อโรคเพิ่มขึ้น ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่เรากำลังเฝ้าติดตามเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นซึ่งเราต้องจับตาดูให้ดี”
ในขณะที่ความสามารถของโควิด-19 ในการพัฒนาทำให้มันสามารถแพร่เชื้อได้มากขึ้น และกระตุ้นให้เกิดอาการใหม่ได้อาจฟังดูเป็นเรื่องน่าตกใจ แต่ ณ ตอนนี้ยังไม่มีอะไรบ่งชี้ว่า XBB.1.16 นั้นอันตรายกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ถึงกระนั้นก็ตาม สิ่งสำคัญคือเรายังคงต้องระแวดระวังกันต่อไป และพยายามหลีกเลี่ยงสถานการณ์สุ่มเสี่ยงที่อาจทำให้ติดเชื้อ
เรียบเรียงจาก Gavi.org
ภาพจาก Getty Image