สธ. ยันไม่พบผลกระทบสิ่งแวดล้อมเหตุโรงงานพลุระเบิด พร้อมส่งทีมเฝ้าระวัง 3 เดือน
ส่งทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี ลงพื้นที่ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่ ดำเนินการเฝ้าระวังความเสี่ยงสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจากภาวะฉุกเฉินโรงงานผลิตพลุระเบิด จังหวัดสุพรรณบุรี ให้คำแนะนำการดูแล ป้องกัน และเฝ้าระวังลดความเสี่ยงสุขภาพแก่ประชาชน
นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากเหตุการณ์โรงงานผลิตพลุระเบิด จังหวัดสุพรรณบุรี นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุและมอบหมายให้กรมอนามัย เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยของประชาชน จึงส่งทีม SEhRT ศูนย์อนามัยที่ 5 ราชบุรี ลงพื้นที่ปฏิบัติการร่วมกับทีมจังหวัด
ด่วน! เกิดเหตุพลุระเบิด พื้นที่สุพรรณบุรี มีรายงานบาดเจ็บ - เสียชีวิตจำนวนมาก
เปิดรายชื่อผู้เสียชีวิต เหตุโรงงานพลุระเบิด สุพรรณบุรี

ทำการเฝ้าระวังความเสี่ยงสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เบื้องต้นพบว่า เป็นโรงงานที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และมีพื้นที่ตั้งอยู่กลางทุ่งนา ห่างจากชุมชนมากกว่า 1 กิโลเมตร จึงไม่กระทบต่อชุมชน และไม่มีการปนเปื้อนสารที่เป็นส่วนประกอบในการผลิตพลุในน้ำดื่มน้ำใช้ในชุมชน ทั้งนี้ หน่วยงานท้องถิ่นได้ประกาศให้จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัยแล้ว
ทีม SEhRT จึงเน้นเฝ้าระวังสารเคมีจากพลุระเบิดที่อาจปนเปื้อนในน้ำและอาหารในชุมชนโดยรอบ รวมทั้งตรวจสอบและประเมินสุขลักษณะ
จึงได้มีการกำหนดให้มีการเฝ้าระวังและติดตามการปนเปื้อนตลอด 3 เดือนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน
จากเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิดดังกล่าว กรมอนามัยให้ข้อแนะนำแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการประเมินความเสี่ยงและหลีกเลี่ยงประกอบกิจการในชุมชน ตรวจสอบด้านสุขลักษณะการประกอบกิจการให้เป็นไปตามมาตรฐาน มีกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย และมีมาตรการควบคุมป้องกันภาวะฉุกเฉินที่เกิดจากโรงงาน เพื่อเป็นการเฝ้าระวังความเสี่ยงทางสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมของประชาชนที่อาศัยใกล้เคียงสำหรับประชาชนในพื้นที่ขอให้ปฏิบัติตนตามคำแนะนำด้านสุขภาพจากเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุเนื่องจากมีสารโพแทสเซียมคลอเรต ซึ่งเป็นส่วนประกอบของพลุที่เป็นสารไวไฟ ติดไฟง่าย และหากสัมผัสเข้าร่างกายจะส่งผลต่อระบบประสาท หายใจไม่ออก หายใจถี่ ไอรุนแรง ระคายเคืองตา จมูก บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หมดสติได้และหากได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน หรือเสียงระเบิด ทำให้มีเกิดอาการมึนงง หูอื้อ ปวดหู ปวดหัว ขอให้รีบปรึกษาเจ้าหน้าที่และไปพบแพทย์เพื่อรักษาทันที และเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานเกิดความตระหนักและให้ความสำคัญกับการให้อนุญาตประกอบกิจการเกี่ยวกับการเก็บ สะสมพลุ หรือดอกไม้เพลิง รวมทั้งสารเคมีอันตรายอื่นที่ก่อให้เกิดระเบิดและไฟไหม้ เพื่อลดความเสี่ยงจากหารระเบิดที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตอีกได้
นายกฯ เสียใจเหตุโรงงานพลุระเบิดสุพรรณบุรี สั่งเยียวยาเต็มที่
รับชมคำแถลงฉบับเต็มได้ที่นี้ : กรมอนามัย
สธ.เผยแผนเยียวยาเหตุโรงงานพลุระเบิดสุพรรณบุรี หลังพบเสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต 4 ราย