ผู้ป่วยมะเร็ง-ไตวายเปิดใจ เดือดร้อนระบบบัตรทอง กทม.ใหม่

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่ผ่านมา มีการปรับระบบการเข้ารักษาของผู้ป่วยสิทธิบัตรทอง ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในเขต 13 กรุงเทพมหานคร ปรากฎว่า ผ่านมา 10 กว่าวัน พบว่าประชาชนร้องเรียนตามสื่อ และเพจดังต่างๆ จำนวนมาก ว่าได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก

โดยแต่เดิม การรักษาจะเป็นแบบจ่ายตามการรักษา ระบบนี้มีข้อดีคือ แต่ละหน่วยปฐมภูมิ จะปรับการรักษาให้ดีขึ้น เพื่อเบิกเงินค่ารักษาจาก สปสช.ได้โดยตรง หรือ ใครรักษาได้มากขึ้น รักษาได้ดีขึ้น ก็มีโอกาสมีรายได้เพิ่มขึ้น

ส่วนระบบใหม่ จะเป็นแบบ จ่ายแบบเหมาจ่ายรายหัว ซึ่งเป็นระบบที่ถูกมองว่า รักษาเท่าไร ได้เงินเท่าเดิม ยิ่งรักษามากยิ่งขาดทุน จึงอาจไม่มีการพัฒนาคุณภาพการรักษาให้ดีขึ้น

นอกจากนี้ยังต้องกลับไปคลินิกปฐมภูมิที่มีชื่ออยู่ ปัญหาที่พบก็คือ จากเดิมบางคนเคยขอใบส่งตัวรักษาโรคต่อเนื่องได้ 1 ปี แต่ตอนนี้ ขึ้นอยู่กับคลินิกปฐมภูมิที่จะออกใบส่งตัวให้ ซึ่งต้องขาดงาน ขาดเรียนไปขอใบส่งตัว หรือบางคนถูกปฏิเสธใบส่งตัว ทั้งๆ ที่รักษาต่อเนื่องอยู่ในโรงพยาบาลใหญ่ ถูกเรียกเก็บค่ารักษา ถูกให้ย้ายหน่วยบริการ ขณะที่บางคนพบด้วยว่า ตัวเองชื่อหลุดจากคลินิกเดิม เหตุเพราะคลินิกยกเลิกบริการระบบบัตรทอง เพราะขาดทุน

โดยเฟซบุ๊ก Drama-addict ซึ่งเป็นของ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า "kanok" ที่ได้รับความเดือดร้อนจากระบบส่งตัวแบบใหม่อย่างหนัก  เขาเล่าว่า ตัวเองป่วยเป็นโรคมะเร็ง โรคไตวาย และโรคเกี่ยวเนื่้องอีกราว 10 กว่าโรค แต่เดิมรักษาแบบส่งตัวมาที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งไปขอใบส่งตัวจากศูนย์บริการสาธารณสุข ลาดพร้าว 15 และทางศูนย์ฯ ออกใบส่งตัวให้ครั้งละ 1 ปี ซึ่งที่ผ่านมาก็ไปรักษาที่ โรงพยาบาลศิริราช ไม่เคยมีปัญหาอะไร

พอ สปสช.เปลี่ยนระบบ ปรากฏว่า "kanok" จะต้องไปเริ่มขอใบส่งตัวจากคลินิกปฐมภูมิ ที่เขามีชื่ืออยู่ แต่เขาไม่เคยไปที่นี่ แล้วต้องไปขอประวัติการรักษาจากศิริราชมากว่า 500 หน้ามาให้คลินิกปฐมภูมิแห่งนี้

สุดท้ายได้ใบส่งตัว แต่ไม่ได้ให้ไปโรงพยาบาลศิริรา ที่รักษาประจำ และรักษาต่อเนื่องมาหลายปี แต่ให้ไปโรงพยาบาลกลาง ที่เป็นโรงพยาบาลส่งต่อของคลินิกนี้แทน ปรากฏว่า แพทย์บอกว่ามีแค่โรคมะเร็งที่ไปรักษาที่ศิริราชได้ โดยโครงการ Cancer Anywhere โรคอื่นๆ ให้รักษาโรงพยาบาลกลาง ทั้งๆ ที่ทุกโรคเชื่อมโยงกันหมด ทำให้ต้องตัดสินใจว่า ในการนัดกับอาจารย์แพทย์โรคไตที่โรงพยาบาลศิริราชวันนี้ (12 มี.ค.67) คงต้องจ่ายเงินเอง ทั้งค่าเจาะเลือด และค่ายา เดือดร้อนมาก อยากให้ผู้มีอำนาจฟังเสียงพวกเราบ้าง เห็นใจพวกเราบ้าง และช่วยเหลือพวกเราบ้าง

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่แค่เพียงเคสเดียว แอดมินเฟซบุ๊ก Drama-addict บอกอีกว่า มีคนที่พบปัญหาลักษณะเดียวกันนี้ ติดต่อเข้ามาเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจ้งเบื้องต้นว่า ที่พบว่ามีปัญหายังไม่ได้ดูรายละเอียด แต่คิดว่าน่าจะอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านจากระบบเก่าไปสู่ระบบใหม่ ใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่ ที่ต่อไปจะมีการตัดระบบใบส่งตัวออกจากระบบ ใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียว