โควิด-19 รอบสัปดาห์ พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 569 ราย พบผู้เสียชีวิต 1 ราย
สถานการณ์โควิด-19 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อ 569 ราย ผู้เสียชีวิต 1 ราย หมอธีระวิเคราะห์ มีผู้ป่วยสูงขึ้น 2.2 เท่า คาดเชื้อต่อวันราว 5,600 ราย
กรมควบคุมโรค รายงานสถานการณ์โควิด-19 รายสัปดาห์ ระบุว่า ข้อมูลของสัปดาห์ที่ 34 ปี 2567 ระหว่างวันที่ 25- 31สิงหาคม 2567 มีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาลลดลงเหลือ 569 ราย เฉลี่ยรายวัน 81 รายต่อวัน
มีผู้ป่วยสะสมตั้งแต่ต้นปี 2567 อยู่ที่ 37,922 ราย ปอดอักเสบ 212 ราย ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจ 91 ราย พบผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้สูงอายุ ขณะที่มีผู้เสียชีวิตรวมทั้งแต่ต้นปี 2567 อยู่ที่ 200 ราย
ทั้งนี้การติดเชื้อนอกโรงพยาบาล (ATK+) ไม่นับยอดรวมกับยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่รักษาในโรงพยาบาล
โควิด-19 รอบสัปดาห์ ขาลงผู้ติดเชื้อเพียง 258 ราย และไม่พบผู้เสียชีวิต
อัปเดต!"ยาดองเถื่อน" ป่วยรวม 44 ราย โคมา-ฟอกไต เสียชีวิตเพิ่มเป็น 7 ราย

ด้าน รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ อาจารย์คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat วิเคราะห์การระบาดของไทย ข้อมูลสัปดาห์ล่าสุด 24-31 สิงหาคม 2024 เทียบกับสัปดาห์ก่อน ป่วยนอนรพ.พุ่งสูงขึ้น 2.2 เท่า (120%) แต่จำนวนผู้ป่วยปอดอักเสบลดลง 5% และใส่ท่อช่วยหายใจลดลง 8% ทั้งสองกลุ่มนี้จำนวนอยู่ในระดับก่อนสงกรานต์คาดประมาณจำนวนคนติดเชื้อใหม่ต่อวันอย่างน้อย 4,065-5,645 ราย
ดังที่ประเมินไว้แล้วว่าเป็น grace period แต่อาจมีการปะทุขึ้นได้หากมีพฤติกรรมเสี่ยง/กิจกรรมเสี่ยงกันมากโดยไม่ป้องกันตัวช่วงเปลี่ยนผ่านการระบาดของโรคโควิด-19 นี้ ยาวนานเป็นปีๆ โดยปัจจุบันยังไม่สามารถคาดการณ์การเปลียนแปลงสายพันธุ์ของไวรัสได้ล่วงหน้า แม้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์จะมีมากขึ้นกว่าตอนระบาดใหม่อย่างมากก็ตามการเข้าถึงวัคซีน และการรักษาได้ดีขึ้น ช่วยลดอัตราตายลงไปได้ ตัวโจ๊กเกอร์ที่ยังสร้างผลกระทบทั่วโลกอย่าง Long COVID ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยจำนวนมาก และเป็นภาระระยะยาวให้กับทั้งตัวผู้ป่วย ครอบครัว และประเทศ แม้ยาต้านไวรัสและวัคซีนจะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้พอสมควร
การไปฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นในกลุ่มเสี่ยง สูงอายุ มีโรคประจำตัว และความใส่ใจสุขภาพ ป้องกันตัวระหว่างใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงการสังเกตคนรอบตัวที่มีอาการไม่สบาย เลี่ยงไปคลุกคลีใกล้ชิด มี symptom awareness (SA) ล้วนเป็นกิจวัตรที่ควรปฏิบัติสำหรับทุกคนนาทีนี้ คงไม่ต้องเตือนซ้ำ เพราะย่อมต้องทราบกันแล้วว่า "ความเสี่ยงแปรผันตามพฤติกรรมของตนเอง"