แพทย์เตือนพฤติกรรมดื่มเร็ว ดื่มมาก ส่งผลเสียต่อสมอง เสี่ยงถึงชีวิต

จากกรณีการเสียชีวิตของ “แบงค์ เลสเตอร์” อินฟลูเอนเซอร์คนดัง ที่มีสาเหตุคาดว่ามาจากการถูกจ้างดื่มเหล้าให้หมดแบน แลกกับเงิน 30,000 บาท จนนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางถึงอันตรายจากการดื่มเหล้าปริมาณมากในเวลาอันรวดเร็ว

นาวาอากาศเอก (พิเศษ) นายแพทย์ ไพศาล จันทรพิทักษ์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพ สายกิจกรรมพิเศษ อดีตบอร์ดสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เปิดเผยกับ PPTV ว่า โดยหลักการแล้ว การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากเกินสมควร มีโอกาสเสี่ยงที่จะส่งผลเสียต่อสมอง

นาวาอากาศเอก (พิเศษ) นายแพทย์ ไพศาล กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว หากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก ก็จะมีฤทธิ์ต่อสมอง ซึ่งสมองทำหน้าที่ในการควบคุมความคิด ความเข้าใจ การใช้เหตุผล พฤติกรรมการแสดงออก การเคลื่อนไหว บุคลิก และอารมณ์ รวมถึงควบคุมระบบการหายใจ ดังนั้น หากดื่มในปริมาณมากเกินสมควรก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อสมอง

ส่วนการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณเท่าไรถึงจะมีความเสี่ยงจนทำให้เสียชีวิตได้นั้น ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลและปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มไป เพราะมีปัจจัยสำคัญ เช่น ระยะเวลาในการดื่มเร็ว หรือ ช้า บางคนอาจมีโรคประจำตัว หรือ ไม่มีโรคประจำตัว เราเคยมีกรณีพริตตี้สาวที่ผลตรวจออกมาชัดเจนว่าค่าแอลกอฮอล์ในเลือดมีมากว่า 400 กว่ามิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากจนทำให้เสียชีวิต โดยตามทฤษฎีแล้ว การดื่มที่จะเป็นอันตรายถึงกับเสียชีวิตได้ ต้องดื่มแอลกอฮอล์มากกว่า 12 ดื่มมาตรฐาน หรือประมาณ 360 ซีซี (1 ดื่มมาตรฐาน = 30 ซีซี) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคล

นาวาอากาศเอก (พิเศษ) นายแพทย์ ไพศาล ยังให้คำแนะนำสำหรับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ด้วยว่า ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสมและไม่มากเกินไป เพราะจะส่งผลเสียต่อร่างกาย

ส่วนผู้ที่อยู่กับผู้ดื่มควรสังเกตพฤติกรรมของผู้ที่ดื่มในปริมาณมาก หากเห็นว่าเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง , พฤติกรรมเปลี่ยนไปเป็นคนละคน เริ่มซึม ตอบสนองช้า ให้รีบหยุดดื่ม ระมัดระวังเรื่องการให้ผู้ดื่มขับรถกลับบ้าน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีที่สุด คือ ผู้ดื่มควรลดปริมาณการดื่มแอลกอฮอล์ลงให้ได้น้อยที่สุด รวมถึงไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์แข่งกัน เพราะส่งผลเสียต่อสมองทั้งในระยะสั้นและระยะยาว