สปสช. แจ้งความคลินิก จ. เชียงใหม่ เพิ่ม 2 แห่ง หลังพบเบิกเป็นเท็จ
สปสช. เข้าแจ้งความ คลินิกเอกชนที่ร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรม “30 บาทรักษาทุกที่” เพิ่มอีก 2 แห่ง ใน จ.เชียงใหม่ หลังรับเรื่องร้องเรียน พร้อมเร่งตรวจสอบก่อนพบหลักฐานส่งเบิกจ่ายค่าบริการเป็นเท็จ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 7.2 แสนบาท
ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ในฐานะโฆษก สปสช. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2668 ได้เดินทางไปที่สถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ (สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์) จ.เชียงใหม่ เพื่อแจ้งความกรณีที่คลินิกเอกชน 2 แห่งใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ที่ให้บริการประชาชนผู้มีสิทธิตามนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ เนื่องจาก สปสช. ได้รับร้องเรียนการประพฤติมิชอบในการประกอบกิจการคลินิกฯ
ดร.อนันต์ เผยบริษัทดังในอังกฤษ ค้นพบวิธีรักษาผู้ติดเชื้อ HIV ให้หายขาด
สปสช. เห็นชอบข้อเสนอ งบกองทุน สปสช. 2569 วงเงิน 2.72 แสนล้านบาท

ทั้งนี้ คลินิกแห่งแรกพบการประพฤติมิชอบใน 2 กรณีด้วยกัน ประกอบด้วย กรณีที่ 1 ไม่พบหลักฐานการให้บริการตามที่มีการเรียกเก็บจาก สปสช. โดยหน่วยบริการไม่ส่งเอกสารหลักฐานจำนวน 2,593 ครั้ง
ส่วนกรณีที่ 2 คือ การยินยอมให้ผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพมาดำเนินการแทนในสถานพยาบาล และได้มีการทำการเบิกเงินโดยอ้างว่ามีการแจกชุดตรวจ HIV self–test นอกสถานที่โดยไม่ได้ขออนุญาตจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) รวมถึงผู้ดำเนินการไม่ใช่วิชาชีพ
ขณะที่คลินิกแห่งที่สอง พบการประพฤติมิชอบ 3 กรณี ได้แก่ กรณีที่ 1 ไม่พบหลักฐานการให้บริการตามที่มีการเรียกเก็บจาก สปสช. โดยหน่วยบริการไม่ส่งเอกสารหลักฐาน จำนวน 4,619 ครั้ง
กรณีที่ 2 การเบิกค่าใช้จ่ายโดยไม่มีการจัดบริการจริงตามหลักฐานการให้บริการและมีการร้องเรียน โดยมีการร้องเรียนจากผู้รับบริการผ่านสายด่วน สปสช. 1330 จำนวน 2 ราย หลังพบประวัติการยืนยันเข้ารับบริการชุดตรวจ HIV self - test แต่ผู้รับบริการทั้ง 2 ราย ยืนยันว่าไม่ได้เข้ารับบริการดังกล่าว
กรณีที่ 3 การยินยอมให้ผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพมาดำเนินการแทนในสถานพยาบาล และได้มีการทำการเบิกชดเชยโดยอ้างว่ามีการแจกชุดตรวจ HIV self – test นอกสถานที่โดยไม่ได้ขออนุญาตจาก สสจ. และผู้ดำเนินการไม่ใช่วิชาชีพ
ทพ.อรรถพร กล่าวต่อไปว่า จากการกระทำดังกล่าวของคลินิกทั้ง 2 แห่ง นี้รวมเป็นมูลค่าการเบิกจ่ายกองทุนบัตรทอง ทั้งสิ้นจำนวน 721,200 บาท โดยแบ่งเป็นคลินิกแรก 295,300 บาท และคลินิกที่สอง 461,900 บาท ทำให้ สปสช. ได้รับความเสียหาย จึงได้เข้าแจ้งความดำเนินการกับผู้ประกอบการคลินิก ซึ่งหลังจากนี้ สปสช. จะทำการขยายตรวจสอบคลินิกต่างๆ ในระบบที่พบข้อมูลการเบิกจ่ายมีความผิดปกติต่อไป