ลุยจัดระเบียบร้านขายยาทั่วกรุงฯ รวบ 12 เภสัชเถื่อน ยึดของกลาง 26 รายการ
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปคบ. และ อย. ร่วมแถลงข่าว จัดระเบียนร้านขายยาทั่วกรุงเทพฯ รวบ 12 เภสัชเถื่อน โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหาเบื้องต้นผิด 3 กระทง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงข่าว ระดมตรวจค้นร้านขายยาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จับกุมผู้ต้องหาที่ไม่ใช่เภสัชกร 12 ราย พร้อมยึดของกลางที่เกี่ยวข้อง จำนวน 26 รายการ โดยมีพฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับการร้องเรียนจากประชาชน
สปสช. เพิ่มอัตราจ่ายค่าตรวจคัดกรอง NIPT หญิงตั้งครรภ์ เป็น 2,700 บาทต่อครั้ง
อึ้ง!ลักลอบนำเข้ากาแฟจีน สวม อย.ไทย ขายผ่านช่องทางออนไลน์กว่าล้านซอง

ให้ตรวจสอบร้านขายยากลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติการณ์ใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่เภสัชกร จำหน่ายยาให้ประชาชนทั่วไป ซึ่งร้านขายยานั้น จะต้องมีเภสัชกรประจำเพื่อแนะนำข้อมูล สรรพคุณ ปริมาณ และวิธีการใช้ยาแก่ประชาชนก่อนตัดสินใจเลือกซื้อยาไปรับประทานเพื่อรักษาโรค ซึ่งหากบริโภคผิดวิธี หรือในกรณีผู้ที่แพ้ยาบางประเภท อาจไม่ได้ผลการรักษาตามที่คาดหวัง หรือก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพได้ จึงเป็นที่มาในการจัดระเบียบร้านขายยาในครั้งนี้
โดยในห้วงวันที่ 1 มกราคม 2568 – 24 มกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้เข้าตรวจสอบร้านขายยา ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 12 จุด โดยร้านขายยาทั้งหมดได้รับอนุญาตถูกต้อง แต่ไม่มีเภสัชกรประจำอยู่ โดยผู้ที่ขายยาไม่ใช่เภสัชกรพร้อมจับกุมผู้ต้องหาซึ่งไม่ใช่เภสัชกรและไม่มีความรู้ด้านเภสัชกรรม จำนวน 12 ราย โดยผู้ต้องหาจบการศึกษาระดับชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 5 ราย ประกาศนีบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) จำนวน 2 ราย และปริญญาตรี จำนวน 5 ราย ดำเนินคดีข้อหา “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต และในกรณีบางรายที่จำหน่ายยาอันตรายจะมีความผิดเพิ่มเติม ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับว่า รับจ้างเป็นพนักงานขายยาภายในร้านขายยาซึ่งอยู่ประจำร้านทุกวัน และจะมีเภสัชกรเข้ามาดูแลร้านเพียงเดือนละ 1-4 ครั้ง โดยได้รับค่าจ้างเดือนละ 12,000 - 30,000 บาท
เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม
- พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ.2537 มาตรา 28 ฐาน “เป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมทำการประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือแสดงด้วยวิธีใดๆ ให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพดังกล่าว โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- ความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” ระวางโทษปรับ 1,000-5,000 บาท
- สำหรับผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ(เภสัชกร) มีความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510 ฐาน “ไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาทำการ รวมถึงไม่ควบคุมการขายยา ควบคุมการส่งมอบยา อันตราย และควบคุมการทำบัญชีซื้อและขายยาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง” ระวางโทษปรับตั้งแต่ 1,000 – 5,000 บาท
พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รรท.ผบก.ปคบ. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้มีมาตรการเฝ้าระวัง ตรวจสอบร้านขายยากลุ่มเสี่ยง ที่มีการจำหน่ายยาให้ลูกค้าโดยไม่มีเภสัชกรประจำอยู่ ซึ่งยานั้นเป็นสิ่งที่ใช้รักษาโรค หรือบรรเทาอาการเจ็บป่วย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้อย่างถูกวิธีและได้รับคำแนะนำในการใช้อย่างละเอียด จากผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม โดยเฉพาะยาอันตรายและยาควบคุมพิเศษซึ่งจะต้องใช้อย่างระมัดระวังตามใบสั่งของแพทย์ เท่านั้น หากพี่น้องประชาชนพบเห็นร้านขายยาใดมีพฤติกรรมในการใช้พนักงานขายยาที่ไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมหรือการกระทำความผิดกฎหมายในลักษณะอื่นใดสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วน ปคบ.1135 หรือ เพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภคได้ตลอดเวลา