เห็นชอบเพิ่ม“ยาบัญชียาหลักแห่งชาติ 6 รายการ” ให้สิทธิบัตรทอง
บอร์ด สปสช. เห็นชอบ “ยาบัญชียาหลักแห่งชาติ 6 รายการ” เพิ่มสิทธิประโยชน์ในระบบบัตรทอง ดูแลผู้ป่วยเข้าถึงยาที่จำเป็นให้ครอบคลุมมากขึ้น เพิ่มประสิทธิผลการรักษา ทั้งยารักษาวัณโรค โรคหน่วยไตอักเสบ โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) กล่าวว่า ในวันนี้ บอร์ด สปสช.ได้อนุมัติยา 6 รายการ เป็นประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุขในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ตามเงื่อนไขที่คณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติเห็นชอบ เพื่อดูแลผู้มีสิทธิได้เข้าถึงยารักษาที่จำเป็นได้อย่างครอบคลุม
ราชกิจจาฯ เผยแพร่คำสั่ง เพิกถอนทะเบียนตำรับผลิตภัณฑ์สมุนไพรเจ้าดัง
สธ.คาดค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในเกณฑ์สีส้มตลอดทั้งสัปดาห์หน้า

ภายหลังผ่านการพิจารณาโดยคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข และคณะอนุกรรมการกำหนดหลักเกณฑ์การดำเนินการและการบริหารกองทุนแล้วก่อนหน้านี้ รวมถึงคณะอนุกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์เป็นที่เรียบร้อยแล้วและได้นำเสนอต่อบอร์ด สปสช. ในวันนี้
ทั้งนี้ยา 2 รายการแรก ใช้รักษาวัณโรคตามคำแนะนำแนวทางการรักษาขององค์การอนามัยโลก ได้แก่
- ยาพรีโตมานิด (Pretomanid) ใช้รักษาวัณโรคดื้อยาหลายขนาน หรือวัณโรคดื้อยาหลายขนานชนิดรุนแรงที่มีประสิทธิภาพดี มีความปลอดภัยและใช้เวลาการรักษาสั้นลง โดยกินยาต่อเนื่อง 6 เดือน จากสูตรเดิมที่ต้องกินยาต่อเนื่อง 9-20 เดือน ทำให้เพิ่มโอกาสการรักษา มีผู้ป่วยที่ต้องใช้ยานี้ประมาณ 980 คนต่อปี ทั้งนี้เมื่อคำนวณกับการรักษาด้วยยาสูตรเดิมจะทำให้ประหยัดงบประมาณได้ถึงจำนวน 51.53-59.64 ล้านบาท
- ยาไอโซไนแอสิด+ไรฟาแพนทีน (Isoniazid+rifapentine) ใช้รักษาวัณโรคระยะแฝง หรือผู้มีความเสี่ยงสูงต่อวัณโรคระยะแฝง โดยยาไรฟาแพนทีนเป็นยาที่อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ หากเพิ่มเป็นยาไอโซไนแอสิด+ไรฟาแพนทีนจะช่วยให้ประสิทธิภาพการรักษาดีขึ้นกว่าการใช้ยาเดี่ยว โดยกินยาน้อยกว่าและใช้ระยะเวลารักษาน้อยกว่ายาสูตรอื่น ประมาณการมีผู้ป่วยที่ต้องใช้ยานี้จำนวน 5,859 คนต่อปี ซึ่งจะลดค่ารักษาเมื่อเทียบกับยาสูตรเดิมได้ 1,117.16 - 1,314.10 บาทต่อคน
“ยา 2 รายการนี้ เบื้องต้นปีงบประมาณ 2568 ทางกรมควบคุมโรคได้ดำเนินการจัดหางบประมาณ และ สปสช. จะดำเนินการต่อเนื่องหลังจากนั้น” รมว.สาธารณสุข กล่าว
ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนยาอีก 4 รายการ จะเป็นการขยายข้อบ่งใช้ยาให้ครอบคลุมและเพิ่มประสิทธิภาพรักษาผู้ป่วยมากขึ้น ได้แก่
- ยาโสฟอสบูเวียร์+เวลปาทาสเวียร (Sofosbuvir + Velpatasvir) และ ยาไรบาวิริน (Ribavirin) สำหรับรักษาโรคไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรังทุกสายพันธุ์ในผู้มีน้ำหนักมากกว่า 30 กิโลกรัม และผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาครั้งแรก โดยคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ พิจารณาแล้วว่า ยาดังกล่าวมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยในการรักษาไวรัสตับอักเสบซีเรื้อรัง และสามารถใช้ได้ในผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 18 ปีที่มีน้ำหนักมากกว่า 30 กิโลกรัม รวมถึงสามารถให้ยาซ้ำอีก 24 สัปดาห์ กรณีที่ล้มเหลวจากการรักษาครั้งแรก ประมาณการว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจำนวน 660 คนต่อปี
- ยาเซฟตาสิดีม+เอวิแบคแตม (ceftazidime+avibactam) เดิมบัญชียาหลักแห่งชาติกำหนดให้ใช้รักษาการติดเชื้อ Carbapenem resistant Enterobacteriaceae (CRE) ที่มีข้อห้ามใช้ยาโคลิสติน (Colistin) โดยคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติได้เพิ่มเงื่อนไขให้ชัดเจน คือให้ใช้ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาโคลิสตินด้วยเหตุผล คือเชื้อ CRE ที่ตรวจพบดื้อต่อยาโคลิสติน แพ้ยาโคลิสตินรุนแรง หรือเกิดภาวะเป็นพิษต่อไต ทั้งนี้ประมาณการผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาจำนวน 30 คนต่อปี
และ ยาริทักซิแมบ (Rituximab) ได้เห็นชอบหลักการใช้ยาในข้อบ่งใช้เพิ่มเติม ดังนี้
- โรคหลอดเลือดอักเสบแองคา ช่วยลดการเกิดซ้ำของโรค ประมาณการผู้ป่วยที่จะใช้ยาจำนวน 794 คน, กลุ่มอาการโปรตีนรั่วในปัสสาวะไม่ทราบสาเหตุ ใช้ในผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยากลุ่มอื่น และลดกลับเป็นซ้ำของโรคได้ 9-19 เดือน ประมาณการผู้ป่วยที่จะใช้ยาจำนวน 80 คน, โรคหน่วยไตอักเสบ ช่วยให้ภาวะของโรคสงบลง 53.6%-80.3% ประมาณการผู้ป่วยที่จะใช้ยาจำนวน 80 คนต่อปี, โรคลูปัสหรือเอสแอลอี ประมาณการผู้ป่วยที่จะใช้ยาเป็นเด็กจำนวน 60 คน และผู้ใหญ่จำนวน 568 คน
- โรคผิวหนังและกล้ามเนื้ออักเสบ ใช้ทดแทนยา IVIg ซึ่งให้ผลการรักษาไม่แตกต่างกัน แต่มีราคาถูกกว่า ปีงบประมาณ 2567 ฐานข้อมูล สปสช. มีจำนวน 46 คน หากผู้ป่วยครึ่งหนึ่งเปลี่ยนมาใช้ยา Rituximab จะ ประหยัดค่ารักษาจากการใช้ยา IVIg ได้จำนวน 4,013,879.04 บาทต่อปี, โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองนอนฮอดจ์กิน มีประสิทธิผลมากกว่าการใช้ยาเคมีบำบัดเพียงอย่างเดียว และราคายาถูกลงมากจึงได้ขยายข้อบ่งใช้ยา ประมาณการผู้ป่วยที่ใช้ยาจำนวน 973 คน
โดยยา 4 รายการที่ขยายข้อบ่งใช้เพิ่มเติม บอร์ด สปสช. มอบอนุกรรมการจัดทำแผนการจัดซื้อยาฯ ในการปรับแผนจัดหายา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นตามโครงการพิเศษ วงเงินงบประมาณไม่เกิน 43.42 ล้านบาท โดยปีงบประมาณ 2568 ให้ใช้งบคงเหลือจากแผนการจัดหายาฯ ตามโครงการพิเศษ