สปสช.ยกเลิกประกาศ “มะเร็งรักษาทุกที่” ฉบับใหม่แล้ว กลับไปใช้ฉบับเดิม
รมว.สมศักดิ์ ย้ำ วันนี้และ 1 เม.ย. 68 “มะเร็งรักษาทุกที่” ผู้ป่วยเข้ารับการรักษาที่ โรงพยาบาลที่มีศักยภาพด้านมะเร็งได้เหมือนเดิมตามประกาศฉบับเดิม หลัง สปสช. ลงนามยกเลิกประกาศฉบับใหม่แล้ว หน่วยบริการสามารถเบิกได้ทั้งค่ารักษามะเร็งโรคแทรกซ้อนของมะเร็ง และโรคอื่นที่คนไข้มะเร็งเป็นร่วม ขณะที่ผู้ป่วยมะเร็งรับบริการเหมือนเดิมโดยไม่ใช้ใบส่งตัว
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ตามที่ได้สั่งการให้ทางสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดำเนินการแก้ไขปัญหากรณีการเข้ารับบริการตามนโยบาย “มะเร็งรักษาทุกที่” (Cancer Anywhere) นั้น ล่าสุดทาง นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการ สปสช. รายงานว่าได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ณ วันนี้รวมถึงตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2568 เป็นต้นไป
ออกประกาศย้ำ! เลื่อนบังคับใช้มะเร็งรักษาทุกที่ ฉบับใหม่ ให้ใช้หลักเกณฑ์เดิมไปก่อน
สรุปแนวทาง“มะเร็งรักษาทุกที่”ย้ำยังใช้หลักเกณฑ์เดิม ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

ผู้ป่วยมะเร็งสามารถเข้ารับบริการตามนโยบายนี้ได้ตามแนวทางบริการเดิมที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวรับรองสิทธิในการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายจากหน่วยบริการประจำโดยทาง สปสช. เป็นรับผิดชอบดูแลการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายตามนโยบายเช่นเดิม หน่วยบริการสามารถเบิกได้ทั้งค่ารังสีรักษา ยาเคมีบำบัด การผ่าตัด โรคแทรกซ้อนของมะเร็ง และโรคอื่นที่คนไข้มะเร็งเป็นร่วม
สำหรับการส่งข้อมูลผู้ป่วยนั้น มีระบบอิเล็กทรอนิกส์ TCB Plus ของสถาบันมะเร็ง กรมการแพทย์ และ Health Link ของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อใช้ลงทะเบียน รับส่งต่อและดูข้อมูลผู้ป่วยอยู่แล้ว โดยทาง รพ.รับส่งต่อสามารถดูข้อมูลผู้ป่วยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวนี้ได้
ขณะนี้ทางเลขาธิการ สปสช. ได้ลงนามคำสั่งยกเลิกประกาศหลักเกณฑ์มะเร็งรักษาทุกที่ฉบับใหม่ ที่จะบังคับใช้ 1 เม.ย. 68 แล้ว ซึ่งจะมีผลทำให้กลับไปประกาศหลักเกณฑ์ฯ ฉบับเดิม ปี 2566 -2567 และได้ส่งหนังสือแจ้งเวียนหน่วยบริการทั่วประเทศรับทราบแล้ว
รัฐบาลมีความใส่ใจอย่างยิ่งต่อภาวะเจ็บป่วยของประชาชน โดยมะเร็งเป็นโรคที่มีภาวะร้ายแรงต่อสุขภาพ การเข้ารับการรักษาโดยเร็วที่สุดจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเพิ่มโอกาสการรักษาและลดความรุนแรงของโรค รวมถึงลดการเสียชีวิตลงได้ จึงนำมาสู่นโยบายมะเร็งรักษาทุกที่ โดยมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งยืนยันว่า ณ วันนี้รัฐบาลและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งรวมถึง สปสช. ยังคงยืนยันหลักการนี้เช่นเดิม