"ผู้ว่าฯสมุทรสาคร" ยื่นหนังสือลาออกแล้ว เปิดใจภรรยา เผยเบื้องหลังตัดสินใจลาชีวิตราชการ

จากกรณีี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร  ประกาศจะขอลาออกจากราชการผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุถึงปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นหลังติดเชื้อโควิด-19 เมื่อปลายปี 2563 ทำให้ไม่พร้อมด้านสุขภาพหากต้องอยู่ในพื้นที่ ที่ปัญหาโควิดหนักหน่วง เช่น จ.สมุทราคร อีกทั้งยังตัดพ้อเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ขอย้ายแล้วไม่ได้รับการพิจารณา จึงตัดสินใจลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุราชการ 1 ปีี ทำให้มีผู้ที่ชื่นชอบติดตามผู้ว่าฯสมุทรสาคร ให้กำลังใจจำนวนมาก

เปิดใจ ภรรยาผู้ว่าฯสมุทรสาคร ภรรยาผู้ว่าฯสมุทรสาคร ห่วงสามีอยากให้ลาออก

ประวัติ "วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี" ผู้ว่าฯสมุทรสาคร ผู้นำฝ่าโควิด เปิดโพสต์ลาออก ขอพัก (ไม่ได้แพ้)

รองผู้ว่าฯสมุทรสาครเผยผู้ว่าฯ ปู ทำงานหนัก

 

ล่าสุดวันนี้ ผู้ว่าฯปู หรือ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี  ทำหนังสือขอลาออกจากราชการ ถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากราชการ เพราะมีปัญหาสุขภาพส่วนตัวอันเกิดจากการทำงานในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19  และเวลาในการดูแลครอบครัวอย่างจำกัด จึงขอลาออกจากราชการ โดยขอให้มีผลในวันที่ 2 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป

 

 

ด้านนางชุติพร วิจิตร์แสงศรี ภรรยาผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งเป็นนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาครและทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 ร่วมกับผู้ว่าฯด้วย เปิดเผยกับพีพีทีวีว่า ปัจจุบันผู้ว่าฯสุขภาพไม่สู้ดีนัก ต้องทำกายภาพบำบัดทุกเช้า และบริหารปอดวันละ 3 เวลาก่อนอาหาร ครอบครัวเคยขอร้อง ขอให้ลาออก เพราะแพทย์ประจำตัวก็เตือนว่า ผู้ว่าฯควรพักผ่อน ไม่ควรทำงานแล้ว แพทย์ถึงขนาดส่งไลน์มาถามทุกวันว่า วันนี้ท่านลาออกหรือยัง แต่ผู้ว่าฯก็ห่วงงาน และประชาชนในพื้นที่ ทั้งลูกสาวและภรรยา พูดหลายครั้งให้ลาออก แต่ก็ยังดื้อ 

ภรรยาผู้ว่ายอมรับว่าไม่เคยทราบเรื่องที่ท่านผู้ว่าฯเตรียมยื่นใบลาออกมาก่อน

"สุขภาพตอนนี้ถ้าพูดกันจริงๆนะถ้าเป็นคนอื่นก็คงถอดใจแต่คนนี้ไม่ถอดใจสุขภาพตอนนี้อาจารย์ทางศิริราชก็แนะนำว่าออกเถอะ แต่ท่านยังเป็นห่วงสมุทรสาครอยู่ ยังใจสู้อยู่แต่ไม่รู้ว่าจะยอมแพ้แก่คำเชิญชวนขอร้องให้ออกวันไหน ลูกๆก็ห่วง 4 คน ลูกๆเป็นห่วงทั้งพ่อและแม่ ลูกห่วงพ่อ ลูกๆก็ เมื่อไหร่พ่อจะพัก" ภรรยาผู้ว่าฯสมุทรสาคร กล่าว 

ส.ส.ชลบุรี เร่งสอบ ผู้ช่วยส.ส.ได้ฉีดไฟเซอร์

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Sakravee Srisangdharma