เช็กโปรไฟล์ เปิดประวัติ "ธนกร วังบุญคงชนะ"โฆษกรัฐบาลคนใหม่ คอนเนกชันปึ้ก - ผลงานเข้าตา!

เผยแพร่ 24 ส.ค. 2564 ,13:57น.

ครม.แต่งตั้งแล้ว ในที่สุด "ธนกร วังบุญคงชนะ" ได้รับแต่งตั้งเป็นโฆษกรัฐบาลคนใหม่ เปิดประวัติ กระบอกเสียงนายกฯ ป้ายแดง คอนเนกชันปึ้ก ผลงานโดนใจเข้าตา!

เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2564 มีรายงานว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งให้ นายธนกร วังบุญคงชนะ เป็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือรัฐบาลคนใหม่ ส่วน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกรัฐบาลคนเก่า แต่งตั้งขึ้นเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง

นายธนกร วังบุญคงชนะ ยังมีตำแหน่งโฆษกประจำศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โฆษกศบศ.ด้วย

ครม. ตั้ง “ธนกร วังบุญคงชนะ” นั่งโฆษกรัฐบาลคนใหม่ ขอบคุณนายกฯที่ให้โอกาส

รองโฆษกพปชร. เหน็บ“อนุทิน”ไม่ยอมแลกกระทรวง

(ธนกร วังบุญคงชนะ)

"ธนกร วังบุญคงชนะ" มีชื่อเล่นว่า "แด๊ก" อายุ 48 ปี เกิดวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช เคยเป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ก่อนหน้านั้นเป็นโฆษกกลุ่มสามมิตร และรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ เป็นเลขานุการ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นอดีตเลขานุการ นายอุตตม สาวนายน สมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

เมื่อ ส.ค. 2563 มีกระแสข่าวว่าจะได้รับการแต่งตั้งเป็นโฆษกรัฐบาล แต่วืดไป ก่อนที่ล่าสุด ส.ค. 64 ได้รับแต่งตั้งเป็นโฆษกรัฐบาล

“บิ๊กตู่” ปัดตั้ง “ธนกร” โฆษกรัฐบาลคนใหม่

เคยเป็นอดีตนักข่าว ก่อนเบนเข็มสู่สายการเมือง ว่ากันว่า "ธนกร" คือสายตรง "สมศักดิ์ เทพสุทิน" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่สมัยพรรคมัชฌิมาธิปไตย

ในเส้นทางการเมือง ได้รับความไว้วางใจที่ปรึกษา ทีมงานรัฐมนตรีหลายคน หลายสมัย

โดดเด่นตอนเป็นโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่องครักษ์พิทักษ์พรรคพลังประชารัฐ และพิทักษ์ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ช่วงนี้เห็นภาพเดินตามนายกฯบ่อยๆ ขนาบข้าง "นายเสกสกล อัตถาวงศ์" สำหรับ ธนกร วังบุญคงชนะเป็นโฆษกสายชน ชกไม่หวั่นข้ามรุ่น ไฟท์ทุกยกช ชกทุกหมัด ผลงานจึงเข้าตา

ธนกร วังบุญคงชนะ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี จากคณะนิเทศศาสตร์ ปริญญาโท จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขารัฐประศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์น หลักสูตรการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยสำหรับนักบริหารระดับสูง (ปปร.) รุ่นที่ 20 และหลักสูตรการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้งระดับสูง (พตส.) รุ่นที่ 2

ปี พ.ศ. 2550 ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร พรรคมัชฌิมาธิปไตย เขตเลือกตั้งที่ 4 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

ปี พ.ศ. 2554 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อในสังกัดพรรคภูมิใจไทย โดยอยู่ลำดับที่ 38 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง

ต่อมาในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐพร้อมกับกลุ่มสามมิตร และได้รับตำแหน่งเป็นรองโฆษกพรรค และลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 27