อบต.ราชาเทวะ ผ่านร่างแผนซื้อเสาไฟกินรี 727 ต้น

สมาชิกสภา อบต.ราชาเทวะ ทยอยเดินทางเข้ามาเพื่อร่วมประชุมสภา สมัยประชุมสามัญ สมัยที่ 4 ประจำปี พ.ศ. 2565 ซึ่งมีกำหนดเริ่มประชุม 10.00 น. วันนี้ 25 พ.ย.

หนึ่งในวาระการประชุม คือ เรื่องเสนอเพื่อพิจารณาญัตติขอความเห็นชอบร่างแผนพัฒนาท้องถิ่น พ.ศ.2566 - 2570 ของ อบต.ราชาเทวะ ร่างแผนนี้เพิ่งผ่านการประชาคมไปเมื่อวันจันทร์ที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา ในร่างมีการบรรจุแผนจัดซื้อเสาไฟกินรี จำนวน 727 ต้น ในปี 2566 วงเงินงบประมาณกว่า 69 ล้านบาทด้วย

เปิดใจ "ทรงชัย นกขมิ้น" หวนนั่งนายก อบต.ราชาเทวะ

พบอีก! เสาไฟกินรีในกองขยะ ไม่ได้ใช้ประโยชน์

การประชุมนี้ทีมข่าวพีพีทีวีได้ทำหนังสือขออนุญาติเข้าร่วมฟังการประชุมไปก่อนหน้า แต่ปรากฎว่าเมื่อคืนนี้มีโทรศัพท์มาบอกว่าไม่อนุญาต แต่เนื่องจากวันนี้มีผู้สื่อข่าวไปกันเยอะ จู่ๆทาง อบต.ก็อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าร่วมฟังการประชุมได้ ภายใต้เงื่อนไขว่า “ไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพ หรือแม้แต่บันทึกเสียงใดๆ” ผู้สื่อข่าวเราก็เลยต้องวาดรูปออกมาว่ามีใครนั่งอยู่ตรงไหน  ซึ่งผู้สื่อข่าวถูกจัดให้นั่งอยูร่มุมหลังสุดของห้องเลย

ที่น่าสนใจคือ ช่วง 15 นาทีแรกของการประชุม มีการโต้แย้งว่าควรถ่ายทอดการประชุมให้บุคคลภายนอกฟังไม่ โดยนายสงวนชัย นันทจันทร์ สมาชิกสภา อบต.ราชาเทวะ หมู่ 6 ยกมือเสนอประธานว่าการประชุมได้รับความสนใจจากประชาชน ควรมีการถ่ายทอดสดให้คนได้ฟัง แต่นายสุรพร พลีสุ่มทอง ประธานสภา อบต.ราชาเทวะ ปฏิเสธ ระบุว่าต้องหารือกันในที่ประชุมก่อน

การประชุมวันนี้ มีวาระพิจารณาว่าจะนำโครงการจัดซื้อจัดจ้าง 4 โครงการ ซึ่งโครงการที่มีการถกเถียงในที่ประชุมมากที่สุด คือ แผนจัดซื้อเสาไฟกินรี

นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ เริ่มอธิบาย ย้ำในที่ประชุมหลายครั้งว่าตนเองไม่ใช่คนตัดสินใจว่าจะนำโครงการจัดซื้อเสาไฟกินรีเข้าไปอยู่ในร่างแผนพัฒนาท้องถิ่นฯ แต่คนพิจารณาคือคณะกรรมการพัฒนาแผนฯ ซึ่งมีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วนในท้องที่รวมอยู่ด้วย และแม้ตนเองจะมีชื่อในคณะกรรมการพัฒนาแผนฯ ด้วย แต่ก็ไม่ใช่คนตัดสินใจทั้งหมด

และมีหลายช่วงตัดพ้อมาถึงสื่อมวลชนที่นั่งฟังการประชุมอยู่ด้วย พูดถึงการให้ข่าวของคนที่ไม่เห็นด้วยเรื่องเสาไฟกินรี บอกว่าหากไม่ต้องการเสาไฟกินรี อยากให้ตนเองย้ายเสาไฟออกจากหมู่บ้าน ไปไว้ในหมู่บ้านอื่นที่เขาต้องการก็ทำให้ได้  รวมถึงการนำเสนอข่าวในลักษณะที่บอกว่า อบต.ราชาเทวะ ซื้อเสาไฟกินรีอีกแล้ว ทำไมจะทำไม่ได้ ก็ในเมื่อเป็นความต้องการของประชาชน

สำหรับวาระเรื่องเสาไฟกินรี มีสมาชิกบางคนลุกขึ้นมาซักถามข้อสงสัยประเด็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนจริงหรือไม่ ถ้าเทียบกับปัญหาอื่นๆ ที่ไม่ได้ถูกบรรจุในแผนพัฒนาท้องถิ่นฯ รวมถึงอยากให้ทบทวนการนำเสาไฟกินรีไปติดตั้งในพื้นที่เอกชน แต่สุดท้ายเมื่อที่ประชุมลงมติ เสียงส่วนใหญ่ คือ 9 เสียง รวมเสียงของประธานสภา อบต.ด้วย เห็นชอบให้บรรจุโครงการจัดซื้อเสาไฟกินรีเพิ่ม 727 ต้น วงเงินงบประมาณ 69 ล้านบาท ลงในแผนพัฒนาท้องถิ่นฯ อยู่ดี

หลังการประชุม นายทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต. ราชาเทวะ เดินลงบันไดข้างห้องประชุมกลับไปทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อ ขณะที่นายสุรพร พลีสุ่มทอง ประธานสภา อบต.ราชาเทวะ ระบุสาเหตุที่ตนเองยกมือเห็นชอบโครงการเสาไฟกินรีในที่ประชุม เพราะเป็นความต้องการของประชาชน ไม่หวั่นว่าจะถูกมองไม่เป็นกลาง เพราะตนเองเป็นตัวแทนได้รับเลือกเข้ามา ต้องทำหน้าที่ จะให้ไม่ยกมือ ไม่มีสิทธิ์มีเสียง คงไม่ถูกต้อง พร้อมยืนยันว่าที่ผ่านมา อบต.ราชาเทวะ ไม่ได้ทำแต่เรื่องเสาไฟกินรี มีการพัฒนาหลายโครงการ แต่สื่อมวลชนไม่ให้ความสนใจโครงการอื่น

ขณะที่นายสงวนชัย นันทจันทร์ สมาชิกสภา อบต.ราชาเทวะ หมู่ 6 ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ยกมืองดออกเสียง บอกว่า ตนเองยังติดใจกรณีที่มีแผนโครงการติดตั้งเสาไฟกินรีรอบบ่อน้ำในหมู่บ้านเอกชนว่าสามารถทำได้หรือไม่เพราะเป็นที่สาธารณะ ซึ่งแม้นายก อบต.ราชาเทวะ จะยืนยันในที่ประชุม ว่านิติบุคคลของหมู่บ้าน เป็นฝ่ายขอเสาไฟกินรีเอง แต่ตนเองก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ ว่าสามารถใช้เงินภาษี มาติดตั้งเสาไฟในที่ส่วนบุคคลได้จริงหรือไม่

ขณะที่นายแดง ปานทอง อดีตสมาชิกสภา อบต. ราชาเทวะ หมู่ 11 ที่เคยคัดค้านการผ่านงบจัดซื้อเสาไฟกินรีในปีที่แล้ว ระบุถึงกระบวนการตรวจสอบตรวจสอบทุจริตเรื่องนี้ บอกว่าตัวเองเข้าใจเรื่องกรอบเวลาการตรวจสอบว่าต้องเป็นไปตามระเบียบ แต่โครงการตั้งกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 และการตรวจสอบที่ล่าช้า ทำให้ล่าสุดตัวเองถูกดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท จากการพูดว่าเสาไฟกินรีเป็นสิ่งฟุ่มเฟือย ซึ่งส่วนตัวก็เชื่อว่าหากกระบวนการตรวจสอบสิ้นสุด ตนเองก็จะพ้นมลทิน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดในการตรวจสอบเรื่องนี้ให้สิ้นสุดโดยเร็ว