นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โชว์เอกสาร 3 ฉบับ ประกอบด้วย หนังสือลาออกจากตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม หนังสือลาออกจาก พปชร. และใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ที่จะเข้าไปสมัครวันที่ 20 มี.ค.นี้
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เหตุผลที่จะย้ายไปสังกัดพรรคเพื่อไทย เพราะเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อนงาน ทำให้รัฐบาลใหม่สำเร็จ เป็นที่พึ่งของประชาชนโดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจ จึงต้องมองพรรคการเมืองที่จะเดินหน้าได้แบบแลนด์สไลด์
ก่อนหน้านี้ได้เข้าไปกราบลา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ซึ่งได้รับการอวยพร พร้อมยืนยันว่าไม่มีความขัดแย้งแตกแยก แต่รัฐบาลที่มาจากหลายพรรคกลายเป็นอุปสรรคในการขับเคลื่อนนโยบาย
เมื่อพิจารณาจากผลสำรวจและการคำนวณส่วนตัวคิดว่าพรรคเพื่อไทย 220 เสียง เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว แต่ถ้าได้เข้าไปช่วยทำให้ตัวเลขของพรรคเพื่อไทยสูงขึ้น ไปสู่เป้าหมายที่พรรคเพื่อไทยวางไว้ 310 เสียง แต่ไม่ใช่ว่าตัวเองจะเก่งกล้าสามารถเพียงแต่จะช่วยส่วนหนึ่ง เพราะการเป็นรัฐบาลก็เป็นความใฝ่ฝันของพรรคการเมือง ส่วนจะไปถึงเป้าหมาย 310 เสียงหรือไม่คงไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้แต่จะเข้าไปช่วยให้สำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้นับจำนวนคนหรือ ส.ส. ที่ตามไปเพื่อไทยด้วย ว่ามีจำนวนเท่าไร เพราะแต่ละคนมีเอกสิทธิ์ส่วนตัวไม่สามารถที่จะไปเกี่ยวนำหรือชวนให้ย้ายพรรคได้ อยากไปก็ไป ไม่อยากไปก็ไม่ไป และในแต่ละพรรคก็มีพื้นที่ใหม่ๆที่จะทำพื้นที่สร้างพื้นที่ได้
ทั้งนี้ ยังไม่ได้พูดคุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่นายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งนายสุริยะได้แจ้งให้ทราบว่านายกรัฐมนตรีไม่ได้ติดใจอะไร อย่างไรก็ตามขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้โอกาสทำงาน แต่ส่วนตัวอยู่ตรงไหนก็ตั้งใจทำงานเต็มที่ โดยที่ผ่านมานายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ชื่นชมการทำงานของกระทรวงยุติธรรมโดยยกให้เป็นเกรด A ซึ่งต้องขอขอบคุณ นอกจากนี้ต้องขอขอบคุณพลเอกประวิตร ที่สนับสนุนให้การทำงานที่ผ่านมาโดยตลอด
ส่วนกระแสข่าวการจับขั้วทางการเมืองระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคพลังประชารัฐนั้น เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรคที่จะพิจารณาไม่ขอให้ความเห็นต้องให้เกียรติผู้บริหารของพรรค แล้วดูเหมือนขณะนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในประเด็นนี้ และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนใดๆ
