ท่ามกลางกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ว่า ส.ว. 250 เสียง จะยกมือโหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ได้เป็นนายกหรือไม่ กรณีที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบล แต่ไม่สามารถรวมเสียง ส.ส.ได้เกิน 376 เสียงซึ่งก็ต้องอาศัยเสียง ส.ว.ในการยกมือช่วย
แต่ในระหว่างนี้ทีมข่าวไปพูดคุยกับ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ในประเด็นข้อน้องเรียนเรื่องการถือหุ้นสื่อ ITV ที่นายพิธาพยายามจะบอกว่าเป็นแค่มรดกที่ได้รับจากบิดาเท่านั้น และเรื่องนี้ก็ยังคาอยู่ที่ กกต.
โดย อดีต กกต. ประเมินว่าเรื่องการถือหุ้น Itv ของ นายพิธา ยังมีความสุ่มเสี่ยง และมองว่า นายพิธา อาจจะชะล่าใจเกินไป ส่วนตัวมองว่าถ้าพิจารณาตามเจตนารมณ์ของกฎหมายว่าถือหุ้นสื่อเอื้อประโยชน์ในการหาเสียง สร้างความนิยมให้กับตัวเอง กรณีนี้นายพิธาไม่น่าจะผิด เพราะอย่างที่หลายคนทราบคือช่องไอทีวีปิดไปนานแล้ว แต่ถ้ามองในแง่การตีความตามกฎหมาย ก็มีความเสี่ยง
เลือกตั้ง 2566 : กกต. ไม่เร่งวินิจฉัยคุณสมบัติ “พิธา” ถือหุ้นสื่อ
เลือกตั้ง 2566 : "เรืองไกร" ร้อง กกต. ฟัน "พิธา" ถือหุ้นสื่อ ITV
เพราะศาลอาจจะพิจารณาจาก 1.หุ้น บ.ไอทีวีเป็นหุ้นสื่อหรือไม่? = เป็นกิจการสื่อ 2.นายพิธามีชื่อถือครองหรือไม่? = หุ้นมรดก 3.บริษัทยังเปิดกิจการอยู่หรือไม่? = ยังไม่จดทะเบียนยกเลิกบริษัท และยังมีรายได้
ถ้าดูทั้ง 3 ปัจจัยนี้ ก็มีความเสี่ยง ทั้งนี้สำหรับไทม์ไลน์ในการพิจารณาของ กกต. นายสมชัยมองว่า ปกติ กกต.จะใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2 เดือน ดังนั้นก็น่าจะเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่สภามีการเสนอชื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้เป็นไปได้ว่าที่ กกต.จะประกาศรับรองผลเลือกตั้งก่อน และจะส่งเรื่องถือหุ้นสื่อ itv โยนให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยทันที และเชื่อว่าศาลน่าจะรับไต่สวนฉุกเฉินด้วย เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า นายพิธา มีความผิดถือหุ้นสื่อก็จะทำให้นายพิธาขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. และยังขาดคุณสมบัติการเป็นนายกฯรัฐมนตรีด้วย
ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม ว่าที่ ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคก้าวไกล ก็ชี้แจงเรื่องดังกล่าวโดยยังคงยืนยันว่า ตอนนี้ทีมกฏหมายเตรียมพร้อมรับมือไว้ทุกทาง ทุกเรื่อง มั่นใจในความบริสุทธ์ และนี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ก้าวไกลวางตัวแคนดิเดตนายกเอาไว้เพียงคนเดียว
