โพสต์ล่าสุด ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ลงรูปภาพของบรรดาหัวหน้าพรรค ที่จับมือกันเมื่อวานนี้ พร้อมระบุ ข้อความว่า ช่วงหนึ่งว่า ข่าวล่ามาเร็วว่าพรรคร่วมรัฐบาล "แค่เซ็น MOU" แต่ยังไม่ได้แบ่งกระทรวงกันชัดเจน
พรรคก้าวไกล ขอ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย เน้น กระทรวงที่คุมความมั่นคง และสังคม เช่น กระทรวงศึกษาธิการ , กระทรวงสาธารณสุข , กระทรวงแรงงาน , กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ส่วนเพื่อไทยไปเอาเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง , กระทรวงพาณิชย์ , กระทรวงพลังงาน , กระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรม
นายชูวิทย์ ระบุว่า หากก้าวไกลได้คุมกระทรวงสาธารณสุข ต้องเน้นเอา 2 เรื่อง “ยกเลิกกัญชาเสรี” และ “วัคซีนโควิด” ที่มีค่าคอมตกหล่นมหาศาล
ที่สำคัญยังมีเรื่อง "ซุกหุ้น" ของอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่ผมขุดบ่อล่อปลาไว้ แล้วยังจะมี “เขากระโดง” ที่ดินของรถไฟ ใต้สังกัดกระทรวงคมนาคมที่พรรคภูมิใจไทยเคยดูแลอีก
แถมด้วย “รถไฟฟ้าสายสีส้ม” ใช้ชั้นเชิงขั้นสูงของ รฟม. ล้มการประมูล พอจัดยื่นซองรอบใหม่ “ตัดของถูก ได้ของแพง ล็อกสเปค” นี่ยังไม่ไปถึงเรื่อง “ฮั้วประมูล” ในกระทรวงคมนาคม ที่คนชนะประมูลเสนอราคาต่ำกว่าราคากลางแค่หลักหมื่นบาท นับร้อยโครงการ
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังระบุถึงพรรคภูมิใจไทย ว่าได้ปาร์ตี้ลิสต์แค่ 3 คน คะแนนพรรคต่ำเตี้ยเรี่ยดิน ที่ได้มาเพราะกระสุนปืนกลยิงไม่หยุด จาก ส.ส. เขตล้วนๆ ถึง 67 คน ผมจึงส่งสัญญาณไปถึงพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยว่า เอาพรรคภูมิใจไทยไปร่วมรัฐบาลด้วยไม่ได้ ยืนยันมาทั้งสองพรรค “ไม่เอาภูมิใจไทย” แค่ 310 เสียง ก็พอแล้ว อย่าไปหลงกลเกมบีบของ ส.ว. ร่วมหัวภูมิใจไทย ให้ต้องจำใจไปเอามาเติมอีก 70 เสียง เพื่อให้พ้น 376 เสียง
นายชูวิทย์ ยังระบุว่า หากให้คนปากหมาหัวใจตรงอย่างผมแนะนำพรรคก้าวไกล “ต้องเข้มแข็งในอุดมการณ์ และยอมถอยในบางเรื่อง การเมืองถึงจะเดินหน้าได้” อ่อนไปหมดไม่ได้ หรือแข็งไปหมดก็พัง
ที่แน่ๆ เรื่องแข็งต้องไม่เอา “พรรคบ้ากัญชา” ไปร่วมด้วย
