นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกล ย้ำถึง มาตรา 112 เมื่อสื่อถามถึงความกังวลในการจัดตั้งรัฐบาล หลัง คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ตอบชัดว่าจะไม่แก้ไข ไม่ยกเลิก มาตรา 112 นายพิธา บอกว่า ไม่กังวล เพราะพูดคุยกันแล้ว และเข้าใจว่าเป็นวาระเฉพาะของแต่ละพรรค
ไม่มีความกังวลนะครับ ได้พูดคุยกันตั้งแต่ ด้วยความกรุณาของสื่อมวลชน ที่มีเวทีดีเบตให้ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหลังเวทีดีเบต นอกเวทีดีเบต ก็เข้าใจ ท่านเสรีพิสุทธิ์ ก็กรุณาเล่าให้ฟัง ประสบการณ์ตรงของท่านด้วย พอพูดคุยกันก่อนจะเซ็นเอ็มโอยู ก็เข้าใจว่าเป็นวาระเฉพาะของแต่ละพรรค แต่ก็อย่างที่ยืนยันไปว่าผมไม่คิดว่าพรรคก้าวไกลจะโดดเดี่ยว ในเรื่องการแก้ไข ม.112 ให้เรื่องความสัมพันธ์ของสถาบันกับประชาชน เป็นไปในทางที่ดีขึ้น
เลือกตั้ง 2566 : ยังยาก! "พิธา" ฝ่าด่าน ส.ว. แก้ ม.112
เลือกตั้ง 2566 : ส.ว.ส่วนใหญ่ ยังไม่ตัดสินใจโหวตเลือกนายก
ส่วนกรณี ที่นายปิยะบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์เฟซบุ๊ก ถึง MOU ที่ลงนามร่วมกัน 8 พรรคเมื่อวานนี้ ไม่เห็นด้วยกับ 2 ประเด็น ประเด็นแรก การเพิ่มข้อความที่ว่า “ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะอันเป็นที่สักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์” และประเด็นที่สอง การตัดเรื่องการผลักดันให้มีการนิรโทษกรรมคดีเกี่ยวกับการแสดงออกทางการเมือง ผ่านกลไกรัฐสภาออกไปนั้น
นายพิธา ตอบว่า เป็นความกังวลใจของนายปิยะบุตร ตนเข้าใจ แต่ข้อความก็เป็นข้อความตามรัฐธรรมนูญ ซึ่ง MOU กับรัฐธรรมนูญเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่น่ามีปัญหาหรือเข้าใจอะไรผิดกัน