เลือกตั้ง 2566 : "ธิดา" เชื่อ ขั้วอำนาจเดิมยังไม่ยอมแพ้

เผยแพร่ 1 มิ.ย. 2566 ,18:15น.

ธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ วิเคราะห์สถานการณ์การเมืองตอนนี้ เชื่อว่าขั้วอำนาจเดิมจะยังไม่ยอมแพ้ รวมถึงวิเคราะห์ว่า หากเกิดอุบัติเหตุใดใด เชื่อว่า ขั้วอำนาจเดิม พร้อมพลิกขึ้นเป็นรัฐบาลต่อ

เป็นการอ่านเกมการเมืองของขั้วอำนาจเดิม โดย นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ มองว่า ขั้วอำนาจเดิม จะยังไม่ยอมแพ้ และพร้อมที่จะชิงจัดตั้งรัฐบาล ทันทีที่ฝ่ายชนะการเลือกตั้งไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้

นางธิดา ยังบอกด้วยว่า ส่วนตัวกังวลกับกระแสข่าวเรื่องความไม่ลงตัวกันในการแบ่งเก้าอี้ตำแหน่ง จนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจและอาจตัดสินใจถอนตัวไม่ร่วมรัฐบาล อยากให้คิดถึงส่วนรวม คิดถึงความหวังที่ประชาชนฝากไว้ มากกว่าความต้องการส่วนตัว

เลือกตั้ง 2566 : FC เพื่อไทย ยื่นเรียกร้องถอนตัวร่วมรัฐบาล

เลือกตั้ง 2566 : "เศรษฐา" ยัน ยังไม่มีดีลนั่งตำแหน่งการเมือง

นอกจากนี้ นางธิดา ยังพูดกระแสข่าว ดีลลับสลับขั้ว ว่าพรรคเพื่อไทยอาจไปจับมือกับขั้วอำนาจเดิมหรือฝ่ายที่แพ้การเลือกตั้ง หากการแบ่งเก้าอี้ไม่ลงตัว ไม่เป็นที่พอใจ เรื่องนี้มองว่าหากพรรคเพื่อไทยทำอย่างนั้นจริง ก็เหมือนเป็นการทำร้ายตัวเอง ทำลายความเชื่อมั่นที่ประชาชนมีให้ สุดท้ายแล้วคะแนนเสียงจากประชาชนที่เคยสนับสนุนก็ค่อย ๆหายไป เพราะเขาจะไม่ไว้ใจอีกต่อไป

นอกจาก นางธิดา จะพูดถึง ผู้มีอำนาจเดิม เขายังย้อนถึง พรรคก้าวไกล และ พรรคเพื่อไทย โดยบอกว่า เป็นโอกาสดีที่ พรรคอันดับ 1 และ พรรคอันดับ 2 จะตั้งรัฐบาล แต่ถ้าย้อนไปที่สาเหตุที่ก้าวไกลชนะเพื่อไทย นางธิดา เชื่อว่า เพราะ จุดยืนพรรคก้าวไกลชัดเจนกว่าในช่วงการดีเบต คนในพรรคพูดไปในทิศทางเดียวกันอย่างหนักแน่น ส่วนพรรคเพื่อไทยอาจชะล่าใจจากผลงานในอดีตที่ประสบความสำเร็จ และมองว่าคนในพรรคมีประสบการณ์มากกว่า

นางธิดา ฝากถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย บอกว่า อยากให้ดึงศักยภาพของตัวเองออกมาใช้ ที่ผ่านมา อุ๊งอิ๊งค์ ก็ทำไว้ได้ดี เห็นพัฒนาการและความตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานการเมือง แต่ก็อยากให้อยากให้ระวังคนเข้ามาหาผลประโยชน์ ควรมีทีมงานหลากหลาย

ความเป็นห่วงนี้ นางธิดา บอกว่า เหมือนกับที่ ตัวเธอห่วงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีมาตลอด แม้แต่ตอนนี้ ก็ยังฝากความเป็นห่วงนี้ ถึงนายทักษิณ โดยบอกว่า อยากให้ระวังและกลั่นกรองข้อมูลจากคนรอบตัว บางคนจริงใจพร้อมจะเดินเคียงข้าง แต่บางคนเข้าหาเพราะหวังผลประโยชน์และไม่ได้ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องครบถ้วน กลัวว่า จะทำให้เกิดผลเสียกับพรรคและตัวนายทักษิณเอง