“วิโรจน์” ขอเปิดใจกว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อย หาก “เพื่อไทย” หวนจับมือ

หนึ่งในคนที่ออกมาเตือนพรรคเพื่อไทย คือ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก่อนหน้านี้ทวีตเป็นนัยยะว่า "หันมาแค่เสียหน้า ไปต่อเสียทั้งหมด"  โดยนายวิโรจน์บอกว่า ไม่ได้หมายความว่า ให้หันกลับมาจับมือกับพรรคก้าวไกล แต่ขอให้กลับมาอยู่กับประชาชนมากกว่า และเคารพเสียงประชาชนที่ออกไปเลือกตั้งมา พร้อมชี้ให้เห็นว่า ฝ่ายอำนาจเก่า มีความพยายามยุทธวิธีเดิมๆ คือ แบ่งแยกแล้วปกครอง  

 

 

พร้อมแนะให้ฝ่ายประชาธิปไตย ลืมความรู้สึก แล้วเปิดใจให้กว้าง ไม่คิดเล็กคิดน้อย เพราะเมื่อไหร่แตกกัน ก็จบ เพราะมีคนอยากให้แตกกันอยู่แล้ว ไปฟังเสียงบางช่วง   

เป็นความเห็นของนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หลังจากก่อนหน้านี้ทวีตผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า “หันมาแค่เสียหน้า ไปต่อเสียทั้งหมด” จนหลายคนบอกว่า ทวีตมีนัยยะถึงพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดยนายวิโรจน์ บอกว่า เป็นเพียงความรู้สึกที่สะท้อนออกมาจากประชาชน ที่ต้องการให้พรรคเพื่อไทยให้กลับมาอยู่กับประชาชน เคารพเสียงประชาชนที่ออกมาเลือกตั้ง ซึ่งจะถือเป็นทางออกที่เคารพเสียงของประชาชนได้

อนุทิน เผย จับมือตั้งรัฐบาลกับ "เพื่อไทย" ขอหารือรายละเอียดก่อน  

"เพื่อไทย" เตรียมแถลงข่าวจับมือ "ภูมิใจไทย" ตั้งรัฐบาล  

โดยสิ่งที่เขาทวีตเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนบุคคล แต่ส่วนตัวมองว่า ฝ่ายอนุรักษ์นิยอม ก็มีความเจ้าเล่ห์เพทุบาย โหดเหี้ยม และยังมีจุดแข็งคือ การรวมตัวกันอย่างเหนียวแน่น และใช้ยุทธวิธีเดิมๆ คือ การแบ่งแยก แล้วปกครอง ฝ่ายประชาธิปไตยจึงต้องลืมเรื่องความรู้สึกส่วนตัว ไม่คิดเล็กคิดน้อย และเปิดใจให้กว้าง มองผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ เพราะหากเมื่อไหร่ที่แตกกัน ก็จบเลย เพราะอีกฝ่ายต้องการให้แตกกัน รวมทั้งหากฟื้นฝอยหาตะเข็บก็ไม่จบ 

นายวิโรจน์ ยังยอมรับว่า จะไม่รู้สึกอะไรเลยเหมือนภูเขาก็คงไม่ใช่ เพราะหัวใจทำด้วยเนื้อ ไม่ได้ทำด้วยเหล็ก แต่เมื่อถึงจังหวะหนึ่ง ก็จะต้องฮึบ ต้องลืมความเจ็บ เหมือนที่ตัวเองเคยฟังเพลง “ไม่ไหวบอกไหว” แล้วต้องจับมือไปกันต่อให้ได้ แต่สุดท้ายแล้ว ก็อยู่ที่พรรคเพื่อไทย ที่จะเดินหน้าหรือถอยหลัง 

 

“วิโรจน์” เตือน “เพื่อไทย” อย่ายอมให้ถูกหลอก 

นายวิโรจน์ ยังให้กำลังใจนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย หลังจากที่เริ่มถูกข้อกังขาเหมือนกับที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกลเคยเจอ โดยนายวิโรจน์ ระบุว่า เห็นใจ แต่ก็เป็นสิ่งที่เคยคาดการณ์ และเคยพูดเตือนมาแล้ว เช่นที่พรรคก้าวไกลถูกนำเรื่องมาตรา 112 มาเป็นข้ออ้าง และหาข้ออ้างอื่นๆ มาเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นความอำมหิต จึงเห็นว่า อย่าไปยอมให้เขาหลอกเลย ซึ่งประชาชนก็ยังเป็นคนที่รู้ด้วยซ้ำว่า ถูกหลอก และถึงแม้จะเปลี่ยนตัวแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ก็ยังถูกหาเรื่อง หาข้ออ้างเหมือนเดิม พร้อมเปรียบเปรย เหมือนกับของที่เขาไม่ซื้อ ต่อให้เปลี่ยนชิ้น นำชิ้นใหม่ขึ้นมาก็หาเรื่องติอยู่ดี  ดังนั้นจึงอย่าปล่อยให้ถูกหลอก ตัวเองนั้นพูดด้วยความหวังดี  เพราะที่ผ่านมาประชาชนถูกหลอกมาแล้วไม่รู้กี่หน 

ส่วนถ้าพรรคเพื่อไทยจะกลับมาก้าวไกลอีกครั้ง จะต้องมีเงื่อนไขหรือไม่ นายวิโรจน์ ระบุว่า คงไม่มีเงื่อนไข แต่ก็คงต้องพูดคุยกันว่า โดนแล้วใช่หรือไม่ รวมทั้งหากกลับมาจับมือกันแล้ว จะต่อสู้กันยังไง เพราะที่ผ่านมา แม้ 8 พรรคร่วมรวมเสียงกันได้ 312 เสียง แต่ไม่ได้สู้กับ 188 เสียง แต่ยังสู้กับ 236 เสียง ของสว. และมีคนเบื้องหลังเป็นผู้กดปุ่ม ซึ่งผู้ที่กดปุ่ม ไม่ได้กดปุ่มให้ฟรีๆ โดยที่จะไม่ร่วมรัฐบาลหรือ ตัวเองเชื่อว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี แล้วจะไปหลงเชื่อได้อย่างไร 

ทั้งนี้ หากพรรคเพื่อไทย กลับมาจับมือกับพรรคก้าวไกล ตัวเองก็เชื่อว่า จะยังสามารถทำงานได้เหมือนเดิม เพราะเรื่องการทำงาน เป็นคนละเรื่องกับความรู้สึก ส่วนความไม่สบายใจก็จะลดทอนลงไปตามกาลเวลา รวมทั้งการทำงานกับผู้ที่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกันก็จะราบรื่น ซึ่งยังมองพรรคเพื่อไทยเป็นเพื่อน ในการทำงานร่วมกันตอนเป็นฝ่ายค้าน ส่วนโอกาสจะกลับมาจับมือกันมากน้อยอย่างไร นายวิโรจน์ ตอบมั่นใจว่า โอกาสมีเสมอ แต่อย่าได้ทิ้งโอกาส