วันที่ 11 ก.ค.2567 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เปิดเผยถึงกรณีที่นายวัน อยู่บำรุง ลาออกจากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี และสมาชิกพรรคเพื่อไทย รวมถึงการที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ท้าพรรคเพื่อไทยให้ขับออกจากพรรคเช่นเดียวกันว่า ความเป็นจริงแล้ว ปัญหาใหญ่ คือ ไม่ใช่นายวัน แต่เป็นเพราะ ร.ต.อ.เฉลิม กับพรรคเพื่อไทย ที่สะสมปัญหาตามลำดับตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง คนในพรรคที่อยู่ใกล้ชิดกับ ร.ต.อ.เฉลิม รู้ว่า ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เห็นด้วยกับกรณีเรื่องนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน และแสดงจุดยืนอย่างชัดเจน
กระทั่งในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ก็ไม่ได้เข้าร่วม แม้วันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่ได้เข้าไป จนวันหนึ่งเดินมาถึงจุดที่มีข่าวหลุดมาจากชั้น 14 ว่า กวนโอ๊ยกันทั้งพ่อทั้งลูก ทำให้ ร.ต.อ.เฉลิม แสดงความไม่พอใจ นายกฯเศรษฐา พยายามเข้ามาไกล่เกลี่ย ถูกตวาดกลับว่าอย่ามายุ่ง จนกระทั่งมีคนเข้าไปถามนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จนทราบว่า ปรากฎว่า อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เดินทางไปที่บ้านบางบอน เพื่อไปคุยกับ ร.ต.อ.เฉลิม กับ นายวัน สถานการณ์คลี่คลายไปในระดับหนึ่ง จึงมีการแต่งตั้งให้นายวัน เริ่มต้นเป็นที่ปรึกษา แบบไม่เป็นทางการกับ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จากนั้นตั้งเป็นคณะกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง และ เลือกตั้งเสร็จแม้กระทั่งประชุมพรรคต่างกรรมต่างวาระ ดูเสมือนหนึ่งว่าคลี่คลายแล้ว ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมพรรคอีก ก่อนหน้านี้ทุกคนก็จะเห็นบนชั้น 8 วันอังคารทุกการประชุม นั่งพูดคุย ดื่มกินกัน แลกเปลี่ยนสถานการณ์การเมืองที่นั้น แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เข้าพรรคมานานมากแล้ว
ในวันเกิดเหตุ วันเลือกนายกอบจ. ปทุมธานี ไม่ใช่เฉพาะนายวัน เท่านั้น ร.ต.อ.เฉลิม ก็เดินทางไปด้วยเพราะความสัมพันธ์ระหว่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง กับ ร.ต.อ.เฉลิม มีมาอย่างยาวนาน วันหนึ่งถ้าฟังจากนายวัน หลังจากเลขาธิการพรรคประสานงานจนถึงหัวหน้าพรรค คือ น.ส.แพทองธาร แสดงความไม่พอใจ เขาก็แสดงการลาออก ถ้าพรรคเพื่อไทยมีจุดยืนแข็งแรง มีความรู้สึกอย่างที่ว่าไม่ควรจะมาเป็นรัฐบาล
กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิมกับ นายวัน ไปที่บ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ หลังจากเลือกตั้งเสร็จนั้น ความสัมพันธ์มิตรภาพทางการเมืองถือว่าเป็นเรื่องปกติอย่างมาก เทียบไม่ได้กับการที่พรรคเพื่อไทยตระบัดสัตย์ หรือ ถ้าน.ส.แพทองธาร มีความรู้สึกว่าทั้งสองพ่อลูกทำไม่ถูกต้อง ตัวเองก็ทำไม่ถูกต้อง ตั้งแต่เรื่องการตระบัดสัตย์ ประกาศไม่จับมือร่วมกับพรรครวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ ไม่จับมือกับคณะผู้ยึดอำนาจ แต่ว่าวันที่เขาโหวตให้นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ก็ไม่สำนึก แต่ว่าวันที่สองพ่อลูกตระกูลอยู่บำรุง ไปในฐานะมิตรกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เกิดความสำนึก ตนว่าไม่แฟร์
เมื่อถามว่า ไม่ได้ผิดอะไรหรือไม่ที่นายวันหรือแม้แต่ ร.ต.อ.เฉลิม ไปบ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ นาย จตุพร กล่าวว่า ไม่ได้ผิดอะไรเลย เพราะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่ใช่ แค่มีวันนี้เพราะพี่ให้ แต่น้องก็ให้พี่เยอะ ไม่ใช่เพราะพี่ให้อย่างเดียว ไม่ใช่ว่าพี่ให้อย่างเดียว น้องก็ให้พี่เยอะ แล้วพี่ต้องรู้ดีว่าน้องให้อะไรบ้าง เพราะฉะนั้นตนเห็นว่าสัมพันธภาพเดิม พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ลงในนามพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว แต่เมื่อพรรคเปลี่ยน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เปลี่ยน จากคนรู้จักกลายเป็นคนที่ไม่รู้จัก แต่สำหรับ ร.ต.อ.เฉลิม เขาไม่ได้เปลี่ยนด้วย เพราะเขายังคงรู้จัก เพราะยังมีความจำ บางคนสูญสิ้นความจำ แต่เขาไม่ได้สูญสิ้นความจำไปด้วย
ตนเห็นว่าเรื่องนี้ไม่แฟร์ เพราะฉะนั้นที่นายวัน แถลงไม่คิดว่าจะเดินทางมาเร็วขนาดนี้ ตนไม่รู้ว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งทูตไปอีกหรือไม่ แต่ว่ามีตัวอย่างเรื่องของตนอยู่แล้ว ที่ผ่านมาส่งน.ส.แพทองธาร ไปเจรจา แต่ครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าจะส่งไปเจรจาแบบตบจูบแบบหนังไทยอีกหรือไม่ ซึ่งตนมองว่าควรพอได้แล้ว
เมื่อถามว่า นายวัน อาจจะไม่ได้คิดถึงขั้นว่า น.ส.แพทองธาร นายกฯ เศรษฐา และ นายทักษิณ จะโกรธรุนแรงขนาดนี้ นายจตุพร กล่าวว่า ตนว่านายวัน คือ ร.ต.อ.เฉลิม เพียงแต่ว่าใครก็ไม่กล้าไปแตะด้วย พรรคเพื่อไทยตนไม่แน่ใจในเรื่องตัวบุคคล อาจจะมองว่า ร.ต.อ.เฉลิมอาจจะแก่แล้ว แต่ตนมองว่าเสือก็เป็นเสือยังวันยังค่ำ เป็นเสือตอนหนุ่มและเสือตอนแก่ นายวัน กับ ร.ต.อ.เฉลิม ก็เป็นผู้แทนราษฎร แต่ว่าก็ไม่กล้าที่จะเรียก ร.ต.อ.เฉลิมเข้าไป แต่เรียกนายวัน เข้าไป วันนั้นไม่ได้ไปเฉพาะนายวัน เท่านั้น ร.ต.อ.เฉลิมก็ไปด้วย
เมื่อถามต่อว่า น.ส.แพทองธาร ก็ต้องรู้อยู่แล้วคนเพื่อไทยไปอยู่ฝั่งคู่แข่ง นาย จตุพร กล่าวว่า นายวัน ไม่ได้ไปในขณะรณรงค์หาเสียง นายวัน ไปหลังจากปิดหีบแล้ว มีความเป็นพี่เป็นน้อง ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคที่ถือสา จะไปเอาคะแนนสว. 152 เสียงได้อย่างไร จะไปเอารวมไทยสร้างชาติ พลังประชารัฐ และ ภูมิใจไทยเข้าร่วมได้อย่างไร เพราะฉะนั้นถ้ามีมาตรฐานทางจิตสำนึก ควรจะปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ
ต่อข้อถามว่า ตอนตั้งรัฐบาลยังไม่ถือสา ตอนนี้อย่ามาถือสาแล้ว นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าคุณมีมาตรฐานทางความรู้สึกกับประชาชน เรื่องใหญ่ที่สุดคือการจัดตั้งรัฐบาล นายกฯส่วนท้องถิ่นความเป็นจริงที่น่าละอาย คือคุณส่งคนที่ถูกดำเนินคดีเรื่องทุจริตถุงยังชีพ ในวันที่คุณเป็นรัฐบาลปี 2554 ด้วย แล้วรู้อยู่แล้วว่ามีสิทธิ์สมัครแต่ไม่มีสิทธิ์เป็น ความจริงคุณต้องออกมาขอโทษประชาชน ไม่ใช่แสดงความไม่พอใจกับตระกูลอยู่บำรุง แบบนี้
เมื่อถามว่า แต่ภาพที่ผ่านสื่อเหมือนที่น.ส.แพทองธาร หรือ นายสรวงศ์ กล่าวว่าทำให้การปกครองของคนที่เป็นหัวหน้าพรรคดูลดความน่าเชื่อถือลงไปหรือไม่ มองว่าปกครองคนไม่ได้หรือไม่ ที่ทำให้คนในพรรคตัวเองเชียร์คนอื่น นายจตุพร กล่าวว่า ยังคิดว่ามีตัวเองมีความน่าเชื่อถืออยู่อีกหรือ ในพรรคแน่นอนที่สุดก็เกรงใจว่าตั้งแต่อดีต นายกฯทักษิณ เขาก็เกรงใจ แต่ความน่าเชื่อไม่ได้อยู่ในพรรค ความน่าเชื่อถืออยู่กับประชาชน วันที่เปิดตัวจนกระทั่งบัดนี้ ความน่าเชื่อถือยังอยู่หรือไม่ ความน่าเชื่อถือไม่ได้อยู่ที่สองคนทั้งพ่อทั้งลูก เข้าไปที่บ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ในฐานะมิตรว่าเสียการปกครอง เพราะฉะนั้นการปกครองคนอยู่ที่สัจจะ ตัวเองเสียสัจจะตระบัดสัตย์ทางการเมือง นั่นเป็นเรื่องใหญ่อยู่แล้ว อย่าตระเวนหาความน่าเชื่อถือเรื่องการปกครอง การปกครองที่ยิ่งใหญ่สุด คือ การปกครองประเทศ ตัวเองยินยอมให้พรรคตระบัดสัตย์ แล้วตัวเองไปร่วมด้วย นั่นคือความเสียหาย
ตนไม่เห็นทั้งสองพ่อลูกมีปัญหาอะไร เขาไปฐานะมิตรและการเลือกตั้งได้ยุติไปแล้ว แล้วเสียการปกครองอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่เข้าพรรคมานานมากแล้วตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง วันโหวตเลือก นายกฯก็ยังไม่ไป ฉะนั้นคิดจะไปปกครอง ร.ต.อ.เฉลิม หรือ ตนว่าเข้าใจผิดกันไปใหญ่ แล้วไม่แน่ใจว่าในวันข้างหน้าจะได้ปกครองกี่คน
เมื่อถามว่า การที่ร.ต.อ.เฉลิมท้าให้ขับออก แสดงว่าตอนนี้โอกาสที่จะกลับมายังมีมากน้อยเพียงใดที่จะเจรจา นายวัน ก็จะลาออกจากสมาชิกพรรค ในขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิมก็ไม่เอาแล้วด้วยเช่นกัน นายจตุพร กล่าวว่า ตนเดาไม่ถูกว่า ท้ายที่สุดจะจัดคนไปหาเหมือนคราวที่แล้วที่น.ส.แพทองธาร ไปหาถึงบ้านคราวนี้ไม่แน่ใจว่าจะไปหาอีกหรือไม่ เพราะถ้าไม่ไปหา ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไปตามที่ว่าไปหาคนอายุมาก คนรุ่นลูกรุ่นหลานไปหาก็ใจอ่อนทุกครั้ง เป็นธรรมชาติ แต่ว่าถ้ายืนอย่างแข็งแรงแบบนี้ตนยืน ตนว่าไปยาก คำว่า กวนโอ๊ย ทั้งพ่อทั้งลูก แต่ว่าตนเองก็ดีกับ ร.ต.อ.เฉลิม ตนเห็นว่าสถานการณ์เลยเถิดมีความคับแคบ การเมือง เดินแบบนี้ได้อย่างไร เพราะว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นเพื่อไทยมาก่อน สังคมไปติดใจคำว่า มีวันนี้เพราะพี่ให้ แต่ว่าน้องให้พี่ มากกว่าที่พี่ให้อีก
เมื่อถามว่า ปัจจุบันนี้พรรคเพื่อไทย ยังจำเป็นจะต้องมีตระกูลอยู่บำรุงอีกหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ความเป็นจริงถ้าทุกคนมองในฐานะมิตรที่ร่วมสู้กันมา ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพใดอย่างไร ควรที่จะรักษามิตร การผลักมิตรเป็นศัตรูมีตัวอย่างเช่นเรื่องของตนอย่างชัดเจน ไม่แน่ใจว่าจะจัดทัพไปเคลียร์หรือไม่อย่างไรอยากจะบอก ร.ต.อ.เฉลิม ว่าพอกันได้แล้ว ควรตัดสินใจแบบที่ตนตัดสินใจ
เมื่อถามว่า ถ้าแนะนำอยากให้ ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาหรือไม่ จตุพร กล่าวว่า ไม่ควรจะอยู่แล้ว ไม่ได้เข้าประชุม ไม่ร่วมกิจกรรม และเขาก็ไม่ได้ให้เกียรติแต่อย่างใด ที่แต่งตั้งนายวัน อยู่บำรุง เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ก็ขัดเสียงไม่ได้
เมื่อถามว่า แล้วเพื่อไทยจะยอมขับออกตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม ท้าหรือไม่ นาย จตุพร กล่าวว่า อาจจะไม่กล้าขับออกเพราะ ร.ต.อ.เฉลิม ก็มีฤทธิ์มีเดช เพราะฉะนั้นก็อยู่กันไปแบบนั้น เพียงแต่ว่าถ้าใจอ่อนขึ้นมาก็จะส่งทูตเข้าไปอีก
ผลบอลยูโร2024 "อังกฤษ" ซัดทดเจ็บแซงดับ "ดัตช์" ลิ่วชิงยูโร 2 สมัยติด
“ชัยวัฒน์” โชว์ภาพมุมสูงอุทยานฯทับลาน ตั้งคำถามใครคือเจ้าของ ?
Samsung เปิดตัว Galaxy Z Flip6 - Fold6 พร้อมแหวนอัจฉริยะ "Galaxy Ring"