7 กันยายน 2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการใช้เงื่อนเวลาในการประเมินผลการทำงานของคณะรัฐมนตรีว่า ต้องติดตามต่อเนื่อง เราทำงานแข่งกับเวลา ส่วนการดำเนินงานของแต่ละกระทรวงต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับแต่ละกระทรวงว่าจะดำเนินการอย่างไร และมีนโยบายอะไร
โดยจะต้องมีการสรุปให้ประชาชนรับทราบในระยะ 3 เดือนแรกอย่างแน่นอน และเบื้องต้นจะเชิญรัฐมนตรีของแต่ละกระทรวง หมุนเวียนเข้ามาหารือเป็นรายกระทรวงในทุกสัปดาห์ เพื่อการทำงานเป็นไปอย่างใกล้ชิด และติดตามงาน ให้เป็นไปตามแผน
อย่างไรก็ตาม นายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่าทุกคนพยายามทำให้เป็นไปตามนโยบาย เชื่อว่าวิธีการนี้จะทำให้เกิดการกระตุ้นให้มีผลงานมากขึ้น
ส่วนนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภา จะมีสิ่งที่แตกต่างจากรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และจะสู้รบกับนิติสงครามเพื่อให้อยู่จนครบวาระอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐมนตรีทุกคนมีความตั้งใจอยู่แล้ว และมีทีมกฎหมายมีผู้มีประสบการณ์ ซึ่งต้องช่วยกันตีความในข้อกฎหมายด้วย ทุกอย่างต้องมีความตั้งใจและดูอย่างรอบด้านรัดกุม
ยอมรับว่าต้องการทำงานให้ครบ 3 ปีเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการทำงาน แม้จะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ก็ยังเป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ดังนั้นนโยบายก็ยังเป็นนโยบายเดิมที่จะสานต่อ
ขณะเดียวกันก็เป็นความเห็นของพรรคร่วมรัฐบาล ที่จะหารือว่าจะปรับแก้ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร โดยการปรับแก้ก็จะสามารถทำให้ดำเนินนโยบายได้อย่างเต็มที่ และส่วนใหญ่เป็นนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงทั้งพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล ย้ำว่านโยบายส่วนใหญ่เป็นเหมือนเดิม มั่นใจว่าจะสามารถทำได้อย่างแน่นอน
เมื่อถามว่ากังวลกับคิวกฐินที่มีคนจองไว้จำนวนมากหรือไม่ ซึ่งหมายถึงเรื่องร้องเรียน และจะมีหลายคดีที่จะตามมา นายกรัฐมนตรีหัวเราะและบอกว่า คิวกฐินเลยหรือคะ นี่คือคำเปรียบเทียบใช่หรือไม่ แค่สื่อมวลชนถามก็รู้สึกสงสารเราแล้ว ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีคดี พอมาถึงจุดนี้แล้วมีคดีความ ก็จะพยายามรับมือให้ดีที่สุด จริง ๆ ไม่อยากมีคดีเพราะลูกยังเล็ก
ส่วนกรณีที่หลายคนปรามาสว่า ระบอบทักษิณกลับมาอีกแล้ว นายกฯ หนีไม่พ้นเงานายทักษิณ นายกรัฐมนตรีตอบว่าจะไม่ขอตอบเรื่องนายทักษิณอีกแล้ว เพราะเราต้องเดินไปข้าง หน้าวิสัยทัศน์ที่ดี ไม่ว่าจะมาจากใครก็ตาม อายุเท่าไรก็ตาม วิสัยทัศน์ที่ดี คือสิ่งที่ดี เพราะฉะนั้นขอตอบแค่นี้
เมื่อถามถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะเริ่มตั้งแต่ในเดือนกันยายนนี้ได้เลยหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่องของไทม์ไลน์โครงการมอบหมายให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงรายละเอียด แต่ยืนยันว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นทันทีอย่างแน่นอน เพราะเป็นข้อแรกที่รัฐบาลจะต้องเน้นย้ำและผลักดันต่อไป
ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรียังให้สัมภาษณ์สื่อต่างชาติ ถึงการสื่อสารเพื่อสร้างความเชื่อมั่น ให้กับนานาประเทศต่อความมั่นคงทางการเมืองของไทย โดยระบุว่าจะผลักดันประเทศไปข้างหน้า และทำให้เป็นที่รู้จักของนานาประเทศ ตนเข้าใจดีถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลนายเศรษฐา จึงจะพยายามอยู่ให้ครบเทอมและผลักดันนโยบายให้สำเร็จต่อไป