การลงพื้นที่หาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ. ของแต่ละจังหวัด แต่ละพรรค ในช่วงนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตาอย่างต่อเนื่อง โดยในวันที่ 12 มกราคม 2568 นอกจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงใน จ.นครพนมแล้ว อีกหนึ่งพื้นที่ที่น่าสนใจคือ จ.เชียงใหม่ ที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ช่วยผู้สมัคร นายก อบจ.หาเสียงในพื้นที่ ทั้งยังไปหาเสียงถึงบ้านเกิดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คือ ที่ตลาดอุ๊ยทา อำเภอสันกำแพง
นายพิธา ได้เดินตลาดพบปะพี่น้องประชาชน ถือโทรโข่งปลุกใจด้วยการขานเบอร์ผู้สมัครเสียงดัง พร้อมกล่าวว่า ขอบคุณพี่น้องชาวสันกำแพงที่ไม่เคยลืมพวกเรา พวกเราจะไม่ลืมชาวสันกำแพงแน่นอน
จากนั้น นายพิธา ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ที่ต้องมาที่นี่ เพราะเป็นเขต สส. พรรคเรา ตนยังนึกถึงความไว้วางใจที่พี่น้องชาวสันกำแพงมอบให้มา ยังจำได้อยู่ ภาพที่เห็นก็เป็นครอบครัวก้าวไกล-ประชาชน เป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ขอให้ชาวเชียงใหม่ให้ความไว้วางใจอีกครั้ง
หากครอบครัวเราใหญ่ขึ้น นั่นหมายความว่าการเมืองในสภา การแก้กฎหมายสำคัญ การแก้ไขปัญหาพื้นที่รวมถึงงบประมาณที่จะนำมาใช้ อบจ. ก็มีหน้าที่โดยตรง เราจะได้ทำงานอย่างไร้รอยต่อกับท้องถิ่น
ส่วนการพูดคุยกับนายทักษิณ ในงานฉลองมงคลสมรส สส.พรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชน นายพิธาบอกว่า ไม่มีอะไร พูดคุยทักทายตามปกติ พอเสร็จงานตนก็แพ็คของมาลงพื้นที่หาเสียงลำพูน เชียงใหม่ต่อ ตนเชื่อว่า ประชาชนต้องการการแข่งขันทางการเมืองที่เข้มข้นตรงไปตรงมาทำงาน เพื่อให้เขาสามารถมีความเชื่อถือและเชื่อมั่นได้ว่าความเป็นไปของเชียงใหม่ที่จับต้องได้
นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนมาเชียงใหม่ครั้งนี้ ยังอบอุ่นเหมือนเดิม ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ได้รับการต้อนรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง เชื่อว่าเป็นเพราะนโยบายที่ตอบโจทย์และโดนใจ
เมื่อถามว่ากังวลเรื่องฐานเสียงหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า การที่จะเป็นพรรคการเมืองอันดับ 1 อย่าง 42% เลือกเรา เดินไป 10 คน เลือกเราพรรคเดียว จะให้เป็นคนรุ่นใหม่อย่างเดียว มันไม่ใช่ มีคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ด้วย คราวนี้ พอเป็นเรื่อง อบจ. มันดูแลได้ตั้งแต่เด็กเล็กไปจนถึงคนสูงอายุ คงไม่ได้เลือกว่าจบเป็นคนรุ่นใหม่อย่างเดียว
นายพิธา ยังเชิญชวนให้คนกลับมาเลือกตั้ง ว่า ตนเข้าใจว่าเพิ่งกลับบ้านเมื่อช่วงปีใหม่ เดือนเดียวต้องกลับมาอีกแล้ว คนที่หาเช้ากินค่ำก็เดินทาง ลางานได้ลำบาก ดังนั้น ใครที่อยู่ในพื้นที่ขอให้ไปใช้สิทธิ์ให้เต็มที่
ทั้งนี้ นายพิธา เชื่อว่า คะแนนเสียงของชาวเชียงใหม่ เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเลย สายน้ำไม่ไหลย้อนกลับ ก็จะให้โอกาสคนที่ตอบโจทย์กับยุคสมัยเราต้องการคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังวังชาและเจอกับความท้าทายใหม่ ๆ ของเชียงใหม่มากกว่า