กรณีนายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เซ็นทิ้งทวนเพิกถอนกรรมสิทธิ์ที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ ก่อนหมดวาระเพียงไม่กี่วัน และตอนนี้เรื่องอยู่ที่ นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่าจะเซ็นเพิกถอนหรือไม่ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เปรยมาแล้วว่า หากไม่เซ็นอาจผิด ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ก็ได้นั้น
18 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวไปเจอนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดนครพนม จึงนำเรื่องนี้ไปสอบถาม
นายทักษิณ ระบุว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย จะบอกว่าคนนั้นคือพวกกันคนนี้คือพวกกันไม่ได้ สังคมมีกติกาเพื่อให้คนอยู่ร่วมกันโดยไม่ขัดแย้ง ถ้าทุกคนยึดกติกาทุกอย่างก็จบ แต่ถ้ามีคนบอกว่าไม่ยอมปฏิบัติตามกติกาก็จะมีปัญหา และตอนที่ตนได้ไปร่วมตีกอล์ฟกับนายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้
ส่วนกรณีนายชาดาลงนามไม่กี่วันก่อนหมดวาระ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร จะกี่วันก็ไม่เป็นไร ถ้ากฎหมายให้อำนาจไม่มีปัญหาและในฐานะที่เป็นเจ้าของสนามกอล์ฟอัลไพน์ เอาอย่างไรก็เอา จะได้จบ ๆ เสียที คาราคาซังน่ารำคาญ
และหากมีการถอนสิทธิ์จริงก็ไม่เป็นไรเพราะหลักการคือถ้าเป็นของกรมที่ดิน ก็ต้องชดเชยความเสียหาย ที่รับโอนอย่างไม่ถูกต้อง หรือหากเป็นของวัดต้องถามว่าวัดจะชดเชยค่าเสียหายหรือให้เช่าต่อ คนเราถ้ารักษากติกาและไม่ยึดติดอะไร
ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการมหาดไทย ยอมรับว่า นายชาดามีการลงนามเพิกถอนที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ กลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์ แต่อำนาจที่แท้จริงเป็นของนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ถือเป็นดุลยพินิจของนายชาญวิทย์แล้วที่จะดำเนินการ ซึ่งหากไม่ดำเนินการจะมีความผิดข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ขณะนี้ นายชำนาญวิทย์ จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2568
ส่วนเมื่อวันที่ 17 ม.ค. 68 สื่อมวลชนได้ติดตามเรื่องนี้กับนายชำนาญวิทย์ แต่ติดประชุมเรื่องการแก้ไขปัญหาสัญชาติ ที่อพยพเข้ามาในราชอาณาจักรไทย และมีแขกเข้าพบตลอดเวลา จึงได้ให้เจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่ให้สัมภาษณ์ เพราะการให้ข่าวต้องเป็นไปตามระเบียบการให้ข่าว และต้องให้ผู้บังคับบัญชาอนุญาตก่อน