เคาะกฎกระทรวง เพิ่ม 3 กลุ่มโรคคนจำพวกที่ 2 ไม่ต้องจับใบแดง-ใบดำ เกณฑ์ทหาร

โดย PPTV Online

เผยแพร่

เคาะกฎกระทรวง เพิ่ม 3 กลุ่มโรค “ตุ่มน้ำพอง – ลำไส้โป่งพองแต่กำเนิด – G6PD” อยู่ในบัญชีคนจำพวกที่ 2 ในการตรวจเลือกทหารกองเกิน

นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไป

สำหรับร่างกฎกระทรวงดังกล่าว มีสาระสําคัญ เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ 37 (พ.ศ. 2561) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 

คอนเทนต์แนะนำ
เงินดิจิทัล 10,000 บาท โอนเงินเข้าบัญชี ผู้สูงอายุกว่า 4 ล้านคน 27 ม.ค.นี้
คลัง ยันพร้อมแจกเงิน 10,000 เฟส 3 ไตรมาส 2-3 ปี 68

เกณฑ์ทหาร ทำเนียบรัฐบาล
นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

โดยแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจําการเพื่อกําหนดเพิ่มลักษณะอาการของโรคจํานวน 3 กลุ่มโรค เพื่อกำหนดให้เป็นคนจำพวกที่ 2 ประกอบด้วย 1.กลุ่มโรคตุ่มน้ำพอง 2.โรคลําไส้โป่งพองแต่กําเนิด และ 3.โรคของเอนไซม์บนเม็ดเลือดแดง ผิดปกติชนิด G-6-PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase) ที่ทําให้เกิดความไม่สมบูรณ์ในร่างกายของทหารกองเกินที่จะเข้ารับการตรวจเลือกทหารเข้ากองประจําการ

โดยการที่จะกำหนดเป็น คนจำพวกที่ 2 ได้นั้น ต้องให้คณะกรรมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองเกินประจําสามารถตรวจวินิจฉัย และ กําหนดคนเป็นจําพวกได้ถูกต้องตามที่หลักเกณฑ์กําหนด โดยมีกฎหมายรองรับและกองทัพได้กำลังพลที่สมบูรณ์แข็งแรงเข้าไปปฏิบัติภารกิจด้านความมั่นคง

สำหรับคนจำพวกที่ 2 ตามความหมายของกฎกระทรวง ฉบับที่ 37 (พ.ศ. 2516) ออกตามความในพระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497 กำหนดว่า เป็นบุคคลซึ่งมีร่างกายที่เห็นได้ชัดว่าไม่สมบูรณ์ดีเหมือนคนจำพวกที่ 1 แต่ไม่ถึงทุพพลภาพ โดยกระบวนการตรวจเลือกทหารกองเกินในแต่ละปี หากจำนวนของ คนจำพวกที่ 1 ไม่เพียงพอ กฎกระทรวงกำหนดให้มีการเรียก คนจำพวกที่ 2 เข้ารับราชการทหารกองเกิน

ทั้งนี้ หากกฎกระทรวงฉบับนี้มีผลใช้บังคับ จะทำให้ โรคที่ถูกกำหนดให้เป็น คนจำพวกที่ 2 มีทั้งหมด 26 โรค ดังนี้

  1. ตาบอดข้างเดียว
  2. ตาเหล่ จนปรากฎชัด
  3. แก้วตาขุ่นข้างเดียว
  4. แผลที่กระจกตาข้างเดียว ซึ่งทำให้กระจกตาขุ่น
  5. ลูกตาสั่น จนปรากฎชัด
  6. หนังตาตก หรือหนังตาม้วนออกนอกหรือหนังตาม้วนเข้าใน แม้แต่ข้างเดียว
  7. ช่องหูมีหนองเรื้อรังทั้งแก้วหูทะลุข้างเดียว
  8. ใบหูลีบเล็ก หรือใหญ่ หรือบี้จนปรากฎชัด แม้แต่ข้างเดียว
  9. จมูกบี้จนผิดรูป  หรือจมูกบี้เล็กน้อยหรือพูดไม่ชัด
  10. รูปวิปริตต่างๆ ของช่องปาก ริมฝีมากหรือจมูก เช่น ปากหรือจมูกแหว่ง ริมฝีปากแบะ หรือชิดจนน่าเกลียด หรือหุบไม่ลง
  11. แผลเป็ฯหรือปานที่หน้ามีเนื้อที่ตั้งแต่ ¼ ของหน้าขึ้นไป หรือมีความยาวมากจนแลดูน่าเกลียด
  12. อัมพาดครึ่งซีกที่หน้า
  13. เนื้องอกที่หน้า มีขนาดวัดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่ 5 เซนติเมตรขึ้นไป
  14. คอพอก
  15. แขน ขา มือ หรือเท้าบิดเกแต่เล็กน้อย
  16. นิ้วมือหรือนิ้วเท้าด้วนถึงโคนเล็บหรือมีจำนวนเกินกว่า หรือน้อยกว่าปกติ หรือนิ้วบิดเกและทำงานไม่ถนัด
  17. ข้อนิ้วมือหรือข้อนิ้วเท้าเคลื่อนไหวไม่สะดวกเนื่องจากเหตุใดๆ ก็ตาม จนทำให้อวัยวะที่ติดต่อกับข้อนั้นๆ ใช้การไม่ได้ดี
  18. ช่องระหว่างนิ้วมือหรือนิ้วเท้า ช่องซอกคอหรือช่องรักแร้ติดกัน
  19. ข้อใหญ่ เช่น ข้อไหล่ ข้อศอก ข้อตะโก หรือข้อเข่าหลวมหลุดบ่อยๆ แม้เพียงข้อเดียว
  20. กระดูกชิ้นใหญ่ เช่น กระดูกขากรรไตร กระดูกอก และกระดูกส่วนอื่นของร่างกายผิดรูปจากปกติ
  21. ไส้เลื่อนชนิดลงถุง
  22. โรคเนื้อกระตุกชนิดต่างๆ ที่หน้า
  23. คนเผือก
  24. กลุ่มโรคตุ่มน้ำพอง
  25. โรคลําไส้โป่งพองแต่กําเนิด
  26. โรคของเอนไซม์บนเม็ดเลือดแดง ผิดปกติชนิด G-6-PD (Glucose-6-Phosphate Dehydrogenase)

Bottom-BDMS Bottom-BDMS

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ