ในวันเสาร์ที่ 1 ก.พ.นี้ ก็จะมีการเลือกตั้งนายกอบจ.หลายจังหวัด และสมาชิกอบจ.ทั่วประเทศ โดยความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง ก็หนีไม่พ้น นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงนายกอบจ.
โดยช่วงโค้งสุดท้าย ก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 1 ก.พ.นี้ นายทักษิณ จะเดินทางไปจ.เชียงราย วันที่ 29 ม.ค.2568 เพื่อช่วยนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงราย พรรคเพื่อไทย หาเสียง โดยจะขึ้นเวทีปราศรัย 2 เวที
เวลา 09.00 น. - 10.00 น. เวทีปราศรัย ที่สิงห์ เชียงราย สเตเดียม อ.เมือง จ.เชียงราย
เวลา 10.30 น.-12.00 น. เวทีปราศรัย ที่โรงเรียนพานพิเศษพิทยา อ.พาน จ.เชียงราย
จากนั้นนายทักษิณ จะไปที่ จ.เชียงใหม่ โดยเวลา 14.00 น. - 15.30 น. ขึ้นเวทีปราศรัยที่สนามกีฬาฝาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ช่วยนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ หาเสียง และพักที่จ.เชียงใหม่ ก่อนจะเดินทางไปจ.ลำพูน ในวันรุ่งขึ้น
ส่วนวันที่ 30 ม.ค.2568 เวลา 09.00 น. - 09.30 น. นายทักษิณ เดินทางไปไหว้พระพระธาตุหริภุญชัย อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน จากนั้นเดินทางไปขึ้นเวทีปราศรัย ที่สำนักงานของยนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ ผู้สมัครนายกอบจ.ลำพูน และจะเดินทางกลับไปยังตลาดวโรรส อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยจะเดินตลาด ช่วยนายพิชัย หรือ สว.ก๊องหาเสียง
ก่อนจะปิดท้ายเวทีปราศรัย ในเวลา 16.00 น.- 18.00 น. ที่สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.เมือง จ.เชียงใหม่
หากจำกันได้ เมื่อวันที่ 23-24 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายทักษิณ เคยลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ไปช่วย สว.ก๊อง มาแล้ว 1 ครั้ง และครั้งนี้จะเป็นครั้งที่ 2 ที่นายทักษิณ ลงพื้นที่ไปช่วยผู้สมัครนายกอบจ.เชียงใหม่ หาเสียง
เรียกได้ว่า ตอนนนี้นายทักษิณและพรรคเพื่อไทยทำศึกหลายด้าน เลือกตั้งนายกอบจ.รอบนี้ พื้นที่อีสานใต้สู้กับพรรคสีน้ำเงิน ส่วนภาคเหนือสู้กับพรรคสีส้ม นอกจากที่จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดอื่นในภาคเหนือก็สำคัญเช่นกัน
อย่างที่จังหวัดลำพูน พรรคเพื่อไทยส่ง นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และยังเป็น อดีตสส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย 4 สมัย สำหรับจ.ลำพูน มีเขตเลือกตั้ง สส. 2 เขต ซึ่งการเลือกตั้งปี 2566 ที่ผ่านมา เพื่อไทยได้ 1 เขต และพรรคก้าวไกล ได้ 1 เขต เท่ากับว่าพรรคเพื่อไทยเสียที่นั่งสส.ให้ก้าวไกล 1 เขต ซึ่งคาดว่า นายทักษิณต้องการไปทวงคืนพื้นที่จังหวัดลำพูนคืนจากพรรคประชาชน (เขตเลือกตั้งที่ 1 นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก พรรคก้าวไกล เขตเลือกตั้งที่ 2 นายรังสรรค์ มณีรัตน์ พรรคเพื่อไทย )
ขณะที่รอบนี้พรรคประชาชน ส่ง นายวีระเดช ภู่พิสิฐ หรือโกเฮง ลูกชาย โกเก๊า หรือนายประเสริฐ ภู่พิสิฐ อดีตนายก อบจ.ลำพูน และอดีตประธานหอการค้า จังหวัดลำพูน ลงแข่งกับพรรคเพื่อไทย โดยโกเฮง เริ่มเข้ามาช่วยงานพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2561 และช่วยงานพรรคตลอด ต่อมาโกเฮงได้รับเลือกเป็นหัวหน้าสาขาพรรคก้าวไกล จ.ลำพูน ซึ่งในการเลือกตั้งใหญ่ทำให้มี สส.พรรคก้าวไกล จ.ลำพูน 1 คน ครั้งนี้พรรคประชาชนก็คาดว่าจะสามารถชิงเก้าอี้นายกอบจ.ลำพูนได้
ส่วนที่จังหวัดเชียงราย ต้องจับตาการวัดพลัง 2 บ้านใหญ่ โฟกัสไปที่คู่ชิงเบอร์ใหญ่ คือนายก-นก อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ อดีตนายก อบจ.สมัยที่ผ่านมา กับ นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช อดีตนายก อบจ. ภรรยานายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานสภา บ้านใหญ่แม่จัน ซึ่งลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย
สำหรับ นายก-นก อทิตาธร จากตระกูล “วันไชยธนวงศ์” ถือเป็นบ้านใหญ่ในทางการเมืองของจังหวัดเชียงราย ที่มีเครือข่ายทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น เป็นบุตรสาว “เสี่ยโป้ย สมบูรณ์ วันไชยธนวงศ์” อดีต ส.ส. 6 สมัย ที่มีสัมพันธ์แนบแน่นกับ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มาก่อน โดยเสี่ยโป้ยเป็น สส.พรรคนี้มายาวนานตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พรรคประชาชน มาจนถึงพรรคเพื่อไทย แต่ต่อมาย้ายไปซบค่ายสีน้ำเงิน-พรรคภูมิใจไทย ในปี 2554
ส่วน “นางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช” ที่ลงในนามพรรคเพื่อไทย นอกจากจะเป็นภรรยา นายยงยุทธ ติยะไพรัช คนสนิทของนายทักษิณ แล้ว ศึกบ้านใหญ่เชียงรายรอบนี้ นายทักษิณ ก็ยอมไม่ได้เช่นกัน เพราะตระกูล “วันไชยธนวงศ์” แปรพักต์ ไปเป็นบ้านใหญ่พรรคสีน้ำเงิน และเสียงพรรคเพื่อไทยยังแตกเป็น 2 ฝั่ง เพราะฝั่งนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ไม่ค่อยลงรอยกับ ตระกูลติยะไพรัช
นอกจากนี้ ฐานเสียงสส.จังหวัดเชียงรายเมื่อการเลือกตั้งปี 2566 ยังเสียให้พรรคก้าวไปด้วย1เขต นายทักษิณจึงต้องไปกอบกู้คืน