ผอ.สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 ป.ป.ช. ยัน คดีชั้น 14 ไม่ได้ถูกแทรกแซง รวบรวมหลักฐานเกือบครบแล้ว

โดย PPTV Online

เผยแพร่

ผอ.สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 ยืนยันคดีส่งตัว “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 ไม่ได้ถูกแทรกแซงรวบรวมหลักฐานเกือบครบแล้ว เตรียมส่งให้คณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาในกรอบเวลา 6 เดือน

วันที่ 27 มี.ค. 2568 น.ส.ดารณี ธรเสนา  ผอ.สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 สำนักงาน ป.ป.ช.  ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเปิดโต๊ะข่าว ถึงกรณีที่เลขาธิการป.ป.ช.กังวลเรื่องการขอเอกสารชั้น 14 เพื่อประกอบการไต่สวนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ทางป.ป.ช.ได้รับข้อมูลมาแล้วบางส่วน แต่ยังมีบางส่วนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถส่งมาให้ได้เพราะระบุว่าเป็นข้อมูลด้านสุขภาพส่วนบุคคล และมีกฎหมายให้ความคุ้มครอง

คอนเทนต์แนะนำ
ป.ป.ช. แต่งตั้งที่ปรึกษาองค์คณะในการไต่สวน คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ
เช็กชื่อ 12 จนท.รัฐ โดน ป.ป.ช.ไต่สวน ปม “ทักษิณ” ชั้น 14

ทักษิณ รายการเปิดโต๊ะข่าว
น.ส.ดารณี ธรเสนา ผอ.สำนักไต่สวนการทุจริตภาครัฐ 1 สำนักงาน ป.ป.ช.

เอกสารดังกล่าวเป็นเวชระเบียนหรือไม่ น.ส.ดารณี กล่าวว่า ก็รวมเรื่องนี้ด้วย เพราะสืบเนื่องจากคณะกรรมการป.ป.ช.ได้ไต่สวนในประเด็นที่ระบุว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ จนครบ 180 วัน โดยไม่ได้ถูกกุมขังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งเบื้องต้นมีการส่งประวัติการรักษามาบางส่วนแล้ว และขณะนี้ก็มีการประมวลเรื่องให้คณะกรรมการป.ป.ช. รับทราบความคืบหน้า

เมื่อถามว่า ได้ประวัติการรักษาของนายทักษิณ บางส่วนแล้ว ใช่หรือไม่ น.ส.ดารณี กล่าวว่า ใช่ ได้บางส่วนที่มีการยินยอม แต่เป็นคนละอย่างกับเวชระเบียน

เมื่อถามย้ำว่า มีความจำเป็นต้องขอเอกสารเวชระเบียนมาตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ น.ส.ดารณี กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่มีการประมวลข้อเท็จจริงทั้งหมด และ เอกสารเท่าที่ได้เพื่อเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาว่า ข้อเท็จจริงที่ได้มาทั้งหมด เพียงพอหรือไม่ หรือ ยังจำเป็นต้องได้เวชระเบียนเข้ามา เพราะว่าเรื่องนี้ทางคณะกรรมการป.ป.ช.ให้รายงานความคืบหน้าเป็นระยะๆ

ส่วนขั้นตอนการทำงานต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร น.ส.ดารณี กล่าวว่า ถ้าพนักงานเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วนก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการสรุปข้อเท็จจริงที่ได้จากการไต่สวนเพื่อส่งให้องค์คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาข้อเท็จจริง ว่า พยานหลักฐานที่รวบรวมได้ว่ามีมูลเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาหรือไม่

เหตุผลที่ขอข้อมูลบางส่วนไม่ได้ทางป.ป.ช.ได้รับการอธิบายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไรหรือไม่ น.ส.ดารณี กล่าวว่า ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งมาว่า มีกฎหมายให้ความคุ้มครองไว้ ถ้าไม่ได้รับการยินยอมจากเจ้าของก็ไม่สามารถเปิดเผยให้ทางป.ป.ช.ได้

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะได้เวชระเบียนมาตรวจสอบ น.ส.ดารณี ย้ำว่า ตรงนี้ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณาโดยการดูประกอบหลักฐานที่ได้มาบางส่วนแล้ว ประกอบกับตัวบันทึกพยานบุคคลต่างๆว่า ข้อเท็จจริงสมบูรณ์เพียงพอหรือไม่

เมื่อถามว่า หากไม่ได้เวชระเบียนมาตรวจสอบจะมีผลต่อคดีนี้อย่างไร น.ส.ดารณี กล่าวว่า ก็ต้องมาพิจารณาดูว่าในเรื่องที่มีกฎหมายคุ้มครองที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระบุมา กับกฎหมายป.ป.ช.ว่าเราจะมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างไร

นอกจากประวัติการรักษาที่ได้มาแล้วรวมไปถึงการพาพยานไปชี้จุดจะต้องนำข้อมูลตรวจนี้มาไต่ส่วนร่วมหรือไม่ น.ส.ดารณี กล่าวว่า กรณีนี้ก็เป็นอีกประเด็นในเรื่องการไต่สวนว่าการนำนายทักษิณ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่

น.ส.ดารณี กล่าวอีกว่า ในเรื่องชั้น 14 จะมีอยู่ 2 ประเด็นด้วยกัน  คือ 1. การส่งตัวนายทักษิณ จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ  2. เป็นเรื่องที่นายทักษิณ รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ จนครบ 180 วันว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทักษิณหรือไม่  ทั้ง 2 ประเด็นจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนโดยดูจากระเบียบของกฎหมาย เช่น กฎกระทรวงการส่งตัวไปรักษานอกเรือนจำ พ.ศ. 2563  

“ในเบื้องต้นเรารวบรวมพยานหลักฐานเกือบครบแล้ว และ ทางคณะกรรมการได้กำหนดกรอบระยะเวลาเอาไว้ 6 เดือน ถ้าเป็นระยะเวลาของกฎหมายจะเป็น 2 ปี แต่กรณีนี้ทางคณะกรรมการได้เร่งรัด 6 เดือน ให้รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน” น.ส.ดารณี

น.ส.ดารณี กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้ทางป.ป.ช. ได้รวบรวมพยานหลักฐานมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และ มีการลงพื้นที่ตรวจสอบ ก็พยายามที่รวบรวมให้ได้มากที่สุด เพื่อนำเสนอกรรมการป.ป.ช.พิจารณา เพราะเรื่องนี้จะมีคณะกรรมการป.ป.ช.ทั้งคณะจะดำเนินการไต่สวนเอง

เมื่อถามว่า คดีนี้เกี่ยวโยงกับพ่อของนายกรัฐมนตรี ทำให้สังคมมองว่า ป.ป.ช. จะถูกแทรกแซงหรือไม่ น.ส.ดารณี ยืนยันว่า เรามีระเบียบตามกฎหมายป.ป.ช. และ ไม่มีการแทรกแซงทางคดี เพราะเรื่องนี้คณะกรรมการป.ป.ช.ไต่สวนเอง และ คดีนี้ก็ไม่ได้ล่าช้า มีกรอบระยะเวลา 6 เดือน เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ม.ค. 2568 หรือ ระยะเวลาผ่านมา 2 เดือน ก็มีการประชุมคณะกรรมการป.ป.ช. ครั้งแรก เราก็รวบรวมพยานหลักฐานได้เยอะแล้ว รายงานความคืบหน้าเสนอเข้าไปยังคณะกรรมการป.ป.ช. เพื่อให้ดูว่าจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเพิ่มเติมอย่างไรหรือไม่ และ หลักฐานที่เราได้มาเกือบครบแล้ว และ จะส่งให้คณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาต่อไป

ส่วนคดีของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีตผบ.ตร. กับพล.ต.อ.สุรเชษฐ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. นั้นน.ส.ดารณีกล่าวว่า ในส่วนของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ คดีอยู่ในชั้นไต่สวนของคณะกรรมการป.ป.ช. และคณะกรรมการป.ป.ช.อยู่ในขั้นตอนไต่สวนเอง การรวบรวมหลักฐานและสอบพยานไปมาแล้ว แต่ติดขัดเรื่องพยานหลายราย ที่แจ้งเรื่องติดขัดภารกิจ และ ขอเลื่อนกำหนดให้ถ้อยคำ ส่วนพล.ต.อ.สุรเชษฐ ทางคณะกรรมกมารเห็นว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจสอบเพิ่มเติม ซึ่งปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ได้เสนอรายงานการตรวจสอบเพิ่มเติมให้คณะกรรมการป.ป.ช.พิจารณา

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ