"ชมรม STRONG" เสียงจากประชาชน เปิดบทบาทพลเมืองสู้โกงเพื่อประเทศ

โดย PPTV Online

เผยแพร่

"ชมรม STRONG" เสียงจากประชาชน เปิดบทบาทพลเมืองสู้โกงเพื่อประเทศ เมื่อไหร่ประเทศไทยจะหลุดจากวังวนคอร์รัปชัน ?

เมื่อไหร่ประเทศไทยจะหลุดจากวังวนคอร์รัปชัน ? 

ประเทศไทยยังคงสอบตกเรื่องความโปร่งใสมาโดยตลอด และยังไม่มีทีท่าว่าปัญหานี้จะดีขึ้น ผลการสำรวจดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI (Corruption Perceptions Index) ของปี 2567 พบว่าประเทศไทยได้คะแนน 34 คะแนน จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 107 จาก 180 ประเทศทั่วโลก และอยู่ในลำดับที่ 5 ของอาเซียน นับว่าเป็นคะแนนที่ต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี

คอนเทนต์แนะนำ
"ภูมิธรรม" รับฟรีวีซ่า มีราคาต้องจ่าย เปิดช่องก่ออาชญากรรมแต่สร้างเม็ดเงิน
ศาลฎีกาฯ ตีตกคำร้อง "ชาญชัย" ไต่สวน "ทักษิณ" ปมรักษาตัวชั้น 14
กกต. ส่งศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง “หมอเกศ” ปมอ้างจบด็อกเตอร์เข้าข่ายหลอกลวง

 

Corruption Perceptions Index 2024 สำนักงาน ป.ป.ช.
Corruption Perceptions Index 2024

องค์การต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยข้อมูลการทุจริตในปี 2567 โดยเฉพาะคดีสำคัญ ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่าประเทศไทยยังอยู่ในวังวนของการทุจริตทุกแวดวงของสังคม ยกตัวอย่างคดีดังในปี 2567 

  • “ชั้น14 ที่โรงพยาบาลตำรวจ” กับข้อกังขาที่ว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ป่วยทิพย์ และได้รับอภิสิทธิ์เป็น “นักโทษเทวดา” หลังเหตุการณ์ล่วงเลยมาเป็นปีก็ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องนี้ และความเข้มข้นในการตรวจสอบก็ค่อย ๆ ลดระดับให้จางลง
  • ความขัดแย้งระหว่าง “2 นายพลใหญ่” แห่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ความศรัทธาขององค์กรตำรวจไทยถูกทำลายอย่างป่นปี้ เมื่อ “บิ๊กต่อ-บิ๊กโจ๊ก” ออกมาฟาดกันแหลกด้วยข้อมูลการทุจริตทั้งส่วย สินบน และผลประโยชน์อีกมากมายในวงการสีกากี
  • “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” กลายเป็นคดีตำนานของวงการขายตรง เมื่อ “บอสพอล” เจ้าของใหญ่ลากเพื่อนร่วมธุรกิจเข้าคุกที่มีทั้งดารา เซเลป ที่สำคัญยังสาวไส้ไปถึงนักการเมืองที่อยู่ในหน่วยงานรัฐ สถาปนาตัวเองเป็น “เทวดา”เรียกรับผลประโยชน์เพื่อคุ้มครองธุรกิจที่เอาเปรียบผู้บริโภค

เพียงแค่ 3 คดี นี้ ก็ชี้ให้เห็นว่าหนทางที่จะหลุดพ้นจากวังวนการทุจริตของประเทศไทยคงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้อย่างแน่นอน เคราะห์ซ้ำกรรมซัด รัฐไทยยังมาถูกสังคมตราหน้าจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ช่วงบ่ายของวันที่ 28 มีนาคม 2568 เป็นวันที่สังคมพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “เมื่อประชาชนตรวจสอบไม่ได้ ก็ให้แผ่นดินเป็นผู้ตรวจสอบ” หลังเกิดความสูญเสียจากเหตุการณ์อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ขนาด 33 ชั้น พังถล่มลงมา

ภาพที่เกิดเหตุ ตึก สตง. ถล่ม วันที่ 01/04/2568 ช่างภาพพีพีทีวี
ภาพที่เกิดเหตุ ตึก สตง. ถล่ม วันที่ 01/04/2568

การสืบสวนหาเหตุก็เริ่มขึ้นด้วยคำถามเรื่องมาตรฐานวัสดุ อุปกรณ์ คุณภาพของการก่อสร้าง ว่าถูกต้องตามหลักการหรือไม่  คำถามเหล่านี้ถาโถมกลับไปที่ สตง. โดยเฉพาะเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้าง ที่อาจมีการทุจริตอยู่ในกระบวนการนั้น จนนำไปสู่การพบพิรุธและหลักฐานหลายอย่าง ที่สะท้อนถึงความไม่โปร่งใสของอาคารหลังนี้

นอกจาก ป.ป.ช. องค์กรไหนตรวจสอบทุจริตได้อีก ?

แน่นอนว่าหน่วยงานที่สามารถชี้ถูกผิดของการทุจริตในภาครัฐได้เพียงหน่วยงานเดียวนั่นก็คือ ป.ป.ช. หรือ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ส่วน ปปป. (กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ) และ ปปท. (สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ) เป็นหน่วยงานที่มาเสริมทัพในการตรวจสอบ  แต่ยังมีอีกหนึ่งหน่วยงานที่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้เงินเดือน แต่สามารถเข้าไปตรวจสอบและเป็นหูเป็นตาการใช้งบประมาณของรัฐได้เช่นกัน และคนเหล่านี้เป็นเพียงประชาชนทั่วไป พวกเขารวมตัวกันโดยใช้ชื่อว่า “ชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต”  

ชมรม STRONG จิตพอเพียง ต้านทุจริต คือใคร ?

ชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.ชลบุรี ชมรม STRONG
ชมรม STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.ชลบุรี

ชมรม STRONG คือเครือข่ายภาคประชาชนที่รวมตัวกันทำงานตรวจสอบภาครัฐ ภายใต้ ป.ป.ช. กระจายตัวกันอยู่ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย สมาชิกของชมรมมีทุกสาขาอาชีพ และใช้ข้อได้เปรียบที่เป็นคนในพื้นที่คอยติดตาม ตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐ เช่นโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ของชุมชน หากพบเห็นพิรุธก็จะส่งเบาะแส และข้อมูลที่เป็นประโยชน์ให้กับ ป.ป.ช. เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบ

หลายข่าวดังที่พบเห็นการทุจริตของเจ้าหน้าที่รัฐ ล้วนมาจากฝีมือของชมรม STRONG เช่น การทุจริตค่าซ่อมรถบัส 2.7 ล้านบาท ของ กทม. ในปี 2568 หรือหากย้อนกลับไปที่ต้นตอของการทุริตงบประมาณอาหารกลางวันของนักเรียน กรณีขนมจีนซาวน้ำปลา เมื่อปี 2561 ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ก็เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของชมรม STRONG ที่นำมาสู่การขยายผลตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันทั่วประเทศมาจนถึงทุกวันนี้

ตัวอย่างการทำงานของชมรม STRONG ในพื้นที่ จ.ชลบุรี  

ภาพสนามกีฬาภาคตะวันออก 09/04/2568 ชมรม STRONG
ภาพสนามกีฬาภาคตะวันออก 09/04/2568

จังหวัดชลบุรี เป็นจังหวัดที่มีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ ทั้งการท่องเที่ยว ที่มีเมืองพัทยาเป็นพื้นที่การปกครองแบบพิเศษ การคมนาคมขนส่งสินค้าจากทั่วโลก และฐานการผลิต อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ รวมไปถึงภาคการเกษตรที่บางพื้นที่ยังทำเงินได้สูง ดังนั้นงบประมาณที่ลงไปยังจังหวัดชลบุรีจึงมีมหาศาล ล่อตาล่อใจเป็นอย่างดีให้เกิดการทุจริต 

โครงการสนามกีฬาภาคตะวันอก เป็นหนึ่งโครงการของเมืองพัทยาที่ชมรม STRONG จ.ชลบุรี ได้เข้าไปร่วมตรวจสอบ โดยสนามกีฬาแห่งนี้มีขนาด 25,000 ที่นั่ง บนพื้นที่ 317 ไร่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 744 ล้านบาท ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2551 แต่ถูกปล่อยทิ้งราว 15 ปี จนกระทั่งปลายปี 2566 นายกเมืองพัทยาคนปัจจุบัน ได้จัดสรรงบประมาณ 336 ล้านบาท และหาผู้รับเหมารายใหม่มาดำเนินการก่อสร้างต่อให้สำเร็จ

โดยการจ้างงานครั้งนี้เมืองพัทยาได้ร่วมมือกับ ป.ป.ช. จ.ชลบุรี และชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริต เป็นผู้ร่วมตรวจสอบ และ สังเกตการณ์การทำงานทุกขั้นตอนของเมืองพัทยากับผู้รับเหมา เช่น การลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้าง ความถูกต้องของแบบก่อสร้าง ความถูกต้องของกำหนดระยะเวลา  เพื่อป้องกันการทุจริตและสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชนว่าทุกขั้นตอนดำเนินการด้วยความโปร่งใส

นายประพนธ์ ประชาสัมพันธ์ ประธานชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.ชลบุรี ชมรม STRONG
นายประพนธ์ ประชาสัมพันธ์ ประธานชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.ชลบุรี

นายประพนธ์ ประชาสัมพันธ์ ประธานชมรม Strong จิตพอเพียงต้านทุจริต จ.ชลบุรี บอกว่าพวกเขารู้สึกเสียดายงบประมาณและภาษีที่เสียไป ที่เห็นรัฐใช้งบประมาณอย่างไม่คุ้มค่า ก็เลยรวมตัวกันตั้งคณะกรรมการขึ้นมาขอเข้ามาตรวจสอบโครงการนี้

พวกเราในฐานะภาคประชาชน  มีความภาคภูมิใจที่หน่วยงานของรัฐยังเห็นความสำคัญ ของภาคประชาชน เรียกได้ว่าตอนนี้มีความร่วมมือข้อตกลงคุณธรรม ทั้งผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง พวกเราซึ่งเป็นภาคประชาชนก็สามารถเข้ามาดูงาน ว่าสร้างได้ถึงไหนแล้ว ถ้าทุกโครงการของรัฐทำลักษณะแบบนี้ก็จะเป้นการดี เป็นการเฝ้าระวังด้วย ในเรื่องของความโปร่งใส

แต่การประกาศตัวว่าเป็นชมรม STRONG ก็ไม่ได้เป็นข้อดีเสมอไป เพราะนายประพนธ์ ยอมรับว่าในพื้นที่จังหวัดชลบุรี เต็มไปด้วยผู้มีอิทธิพล ทั้งบ้านเล็กบ้านใหญ่ การลงพื้นที่หรือตรวจสอบเรื่องใดจึงต้องระมัดระวังและศึกษาอย่างละเอียด

แต่ละคนที่เป็นกรรมการ เวลามีงานบุญ งานกุศล งานบวช งานแต่ง ชาวบ้านจะไม่แจกการ์ดให้แล้ว จะว่าเขารังเกียงจพวกเราก็ไม่เชิง

มุมมองผู้ถูกตรวจสอบ ...

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องถูกตรวจสอบ มองว่าการเข้ามาของชมรม STRONG ไม่ใช่อุปสรรค ไม่ใช่การเพิ่มความยุ่งยากในการทำงานแต่กลับเป็นข้อดีที่ทำให้ทุกขั้นตอนอยู่ในหูในตาของประชาชน หนำซ้ำยังเป็นการประชาสัมพันธ์ความคืบหน้าไปในตัว และเป็นการจับตาให้การทำงานของผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้าง ทำงานสำเร็จได้ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายโดยไม่จำเป็น และแสดงออกถึงความโปร่งใสของการบริหารงาน

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา ชมรม STRONG
นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา

เรื่องทำให้ขั้นตอนมากขึ้น ไม่มีอยู่แล้ว คิดว่าเป็นข้อดีด้วยซ้ำ ก็จะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะมาช่วยดูแล และยังช่วยประชาสัมพันธ์ให้เราด้วย ว่างานคืบหน้าถึงไหนแล้ว ก็ทำให้ผู้รับจ้าง ผุ้คุมงาน นายกเมือง ผู้บริหารเมืองก็ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ อันนี้ถือว่ามีแต่เรื่องดี จะทำให้ประชาชนมั่นใจมากขึ้น ว่าเราได้ดำเนินการถูกต้องตามหลักระเบียบราชการอย่างแน่นอน - นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา

ทุกคนก็เป็นชมรม STRONG ได้ !

นายกิจติพงค์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จ.ชลบุรี บอกว่าชมรม STRONG เป็นภาคประชาชนที่มีบทบาทสำคัญ เกิดขึ้นจากประชาชนที่มีแนวคิด อุดมการณ์ร่วมกันในการต่อต้านการทุจริต จากการรวมตัวกันไม่กี่สิบคน ขยายใหญ่ขึ้นเป็นระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ และจังหวัด จนตอนนี้มีสมาชิกหลายพันคน แต่การลุกขึ้นมาปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของชมรม STRONG ไม่จำเป็นต้องเป็นหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่หน้าที่นี้เป็นของพลเมืองไทยทุกคนที่สามารถช่วยกันได้

นายกิจติพงค์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จ.ชลบุรี ชมรม STRONG
นายกิจติพงค์ ขลิบแย้ม ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. จ.ชลบุรี

การป้องกันและปราบปรามการทุจริต เป็นหน้าที่ของพลเมืองชาวไทยทุกคน ในการเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลการดำเนินโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐ การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ก็เป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคนที่จะช่วยกัน ไม่ใช่หน้าที่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง

ปัญหาคอร์รัปชันจะมีอยู่ต่อไป หากเราไม่ลงมือทำอะไร ชมรม STRONG เป็นเพียงแค่หนึ่งเครือข่ายจากภาคประชาชนที่อาสาเข้ามาทำหน้าที่นี้ แต่จะไม่มีประโยชน์ถ้าเราปล่อยให้พวกเขาต่อสู้เพียงลำพัง ในขณะที่เราก็เป็นประชาชนเจ้าของภาษี แต่เพิกเฉยกับคนชั่วที่โกงกินแผ่นดิน หากเป็นแบบนั้นคำถามที่ว่า เมื่อไหร่ประเทศไทยจะหลุดจากวังวนคอร์รัปชัน ก็ยังคงต้องตามหาคำตอบกันต่อไป

Bottom-PL-HLW Bottom-PL-HLW

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ