ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เรียกได้ว่าไทม์ไลน์ทางการเมืองดุเดือดร้อนแรง ในหลายเรื่อง ไล่ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค. 2568 ที่มีข่าวแพร่สะพัดว่า กกต.ออกหมายเรียก 60 สว. ตามมาด้วยวันที่ 8 พ.ค.2568 แพทยสภามีมติฟันหมอ 3 คน ช่วย นายทักษิณนอนรักาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ และศาลไม่อนุญาตให้ นายทักษิณ เดินทางไปมาเลเซีย
กระทั่งวันที่ 9 พ.ค.2568 กกต.และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ก็ได้ออกหมายเรียก สว. ก่อนนำกำลัง ไล่ติดหมายเรียก ตามคอนโดฯและบ้านสว. 6 คน
จากนั้นวันที่ 11 พ.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล โพสต์เฟซบุ๊ก ได้รับพระราชทานแจกันดอกไม้และของขวัญจากในหลวงและพระราชินี
และหลังจากนี้ในวันที่ 19-21 พ.ค. 2568 ก็ยังมีประเด็นการเมืองที่จะต้องจับตา จากกรณี สว. 55 คน ไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีฮั่วประมูล ต่อด้วยวันที่ 28-30 พ.ค.2568 ซึ่งจะมีการพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569
หลังจากนั้นในวันที่ 13 มิ.ย.2568 ศาลฎีกาฯ นัดไต่สวนคดีนายทักษิณ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ จากคำร้องของ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ และในวันที่ 1 ก.ค.2568 มีการนัดสืบพยานปากแรก คดี ม.112 ของนายทักษิณ
ทั้งนี้ท่ามกลาง ไทม์ไลน์ทางการเมืองที่ดุเดือด โดยเฉพาะคดีฮั้วสว. มีกระแสข่าวลือสะพัด ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกุูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยมีความไม่พอใจอย่างมาก หลังจากดีเอสไอ และกกต.ได้ออกหมายเรียก 55 สว.ให้มารับทราบข้อกล่าวหา ในคดีฮั้ว
โดยสำนักข่าวอิศรา อ้างว่า แหล่งข่าว จากพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ปม คดีฮั้วสว. จะส่งผลให้ พรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทยแตกหักกันอย่างแน่นอน ไม่สามารถพูดคุยประนีประนอมกันได้แล้ว เหมือนที่ผ่านมา โดย “ ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในการประชุมสภาสมัยวิสามัญในวันที่ 28-30 พ.ค. นี้ โอกาสร่าง พ.ร.บ. จะไม่ผ่านความเห็นชอบมีอยู่สูงมาก ถ้า สส. พรรคภูมิใจไทยไม่ยกมือให้ นั่นหมายความว่า นายกรัฐมนตรีต้องประกาศยุบสภาฯ และต้องมีการเลือกตั้งใหม่ซึ่งทางพรรคภูมิใจไทยมีความพร้อม"
สำนักข่าวอิศรา ยังบอกอีกว่า แม้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณฯ ผ่านความเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร แต่ก็คงไม่ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภา เพราะไปเล่นงาน สว. เกือบทั้งสภา ซึ่ง สว. กลุ่มนี้ไม่ยกมือให้แน่นอน
“ถ้าวุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ ก็ต้องส่งกลับไปที่สภาผู้แทนราษฎร ลงมติอีกครั้งหนึ่ง ต้องใช้เสียงยืนยันเกินกว่ากึ่งหนึ่ง ของจำนวนสมาชิกที่มีอยู่จึงจะถือว่าผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งก็ต้องลุ้นอีกว่าจะได้เสียงจำนวนเท่านั้นหรือไม่"
อย่างไรก็ตามสำหรับรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ มีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎรจำนวน 325 เสียง จากทั้งหมด 493 เสียง ประกอบด้วยพรรคร่วมรัฐบาล 15 พรรค โดยการลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส. แพทองธาร ล่าสุด ได้ 319 เสียง ถ้า สส. พรรคภูมิใจไทยไม่ยกมือสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 ให้ และ สส. พรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมดยกมือสนับสนุน ก็อาจจะได้เสียงประมาณ 255-256 เสียง