“อนุทิน” เผยแม้ “ทรัมป์” เป็นตัวกลางช่วยเจรจา แต่กัมพูชาต้องปฏิบัติตาม 4 เงื่อนไข

โดย PPTV Online

เผยแพร่

“อนุทิน” เผยแม้ “ทรัมป์” เป็นตัวกลางช่วยเจรจา แต่กัมพูชาต้องปฏิบัติตาม 4 เงื่อนไข ยืนยันยึดผลประโยชน์ไทย-ประชาชนเป็นหลัก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา จะเป็นตัวกลางการลงนามยุติสถานการณ์ไทยกัมพูชาว่า คนที่พยายามจะเป็นตัวกลางก็ถือว่ามีเจตนารมณ์ที่ดี แต่คู่สัญญาของเราก็ต้องปฏิบัติตามความต้องการของเรา เพราะเราเป็นฝ่ายที่ถูกรุกราน ถูกกระทำ และเราพูดชัดเจนแล้วว่า ถ้าจะคุยกับเราหรือให้มีการเจรจาใดๆ เกิดขึ้น  

อนุทิน ชาญวีรกูล ช่างภาพพีพีทีวี
อนุทิน” เผยแม้ “ทรัมป์” เป็นตัวกลางช่วยเจรจา แต่กัมพูชาต้องปฏิบัติตาม 4 เงื่อนไข

จะต้องปฏิบัติพื้นฐาน 4 อย่างก่อน ถึงจะมีการพูดคุยหรือการเจรจา รวมถึงมาตรการจากฝั่งเราถึงจะเริ่มได้ อาทิ ถอนกำลังออกไป ถอนอาวุธร้ายแรงและกับระเบิดออกไป และจัดการในส่วนที่มีชาวกัมพูชาเข้ามารุกรานพื้นที่ของไทย  รวมถึงต้องตรวจเช็กว่ากัมพูชาได้ถอนเคลื่อนย้ายสิ่งที่เป็นภัย ต่อราชอาณาจักรไทยเรียบร้อย ตรงความต้องการของไทยหรือยัง 

หากทางตัวกลางสามารถโน้มน้าวให้กัมพูชาทำสิ่งเหล่านี้ได้ ทำให้คนไทยเกิดความมั่นใจว่าจะไม่ถูกรุกรานและมีความปลอดภัย ไม่ต้องกลัวอันตราย หากทำได้แบบนี้ถึงจะเริ่มเจรจาต่อไป ซึ่งเรามีเงื่อนไขตรงนี้

ส่วนประเด็นมีข้อสังเกตว่ากัมพูชาจะยกรางวัลโนเบลให้สหรัฐฯ จะถือเป็นการเอื้อประโยชน์หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ตนสนใจเฉพาะประโยชน์ของประเทศไทย และความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนและอธิปไตยของชาติ ส่วนเรื่องใครจะได้รางวัลหรืออะไรก็แล้วแต่ ก็ยินดี แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องสถานการณ์ ดังนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับเรื่องการเจรจาแน่นอน

ส่วนวันที่ 10 ต.ค. นี้ มีกระแสข่าวว่าจะมีการขนคนกัมพูชามาต่อต้านในการผลักดัน นายกรัฐมนตรียืนยันว่า เรามีกฎหมาย และมีการประชุมร่วมกันถึงแผนปฏิบัติการแล้วว่า หากใครก่อความวุ่นวายต่ออธิปไตยไทย จะไม่ยอม พร้อมบังคับใช้กฎหมายไทย แต่อย่าไปกำหนดวัน

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีวันที่ 10 ต.ค. นี้ว่า ในส่วนของตำรวจมีการเตรียมกำลังพลควบคุมฝูงชนไว้เพื่อรองรับสถานการณ์แล้ว แต่อย่างไรก็ตามจะต้องรอคำสั่งจากทางทหาร ว่าจะให้ปฏิบัติอย่างไร เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ได้ประกาศเป็นกฎอัยการศึก โดยอำนาจของตำรวจแล้ว สามารถดำเนินการได้ทั้งสองส่วน คือ ใช้มาตรการผลักดัน หรือควบคุมตัวมาดำเนินคดี ซึ่งการดำเนินคดีใช้กฎหมายเกี่ยวกับคนเข้าเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวกับป่าไม้

แต่ในส่วนระหว่างการคุมตัวเพื่อดำเนินคดีก่อนผลักดันกลับ จะเป็นการเพิ่มภาระที่เกี่ยวกับพื้นที่ที่ต้องรองรับ และอาหาร พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ตอบว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำหนดมาตรการแก้ไข

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ