วันที่ 16 ต.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย เดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) อย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว ซึ่งถือเป็นภารกิจแรกในการเยือนต่างประเทศหลังรับตำแหน่งนายกฯ
โดยนายกฯ เปิดเผยก่อนออกเดินทาง ว่า ไปเพื่อกระชับสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศ รวมถึงการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ความร่วมมือที่ทั้งสองประเทศมีอยู่ทั้งด้านพลังงาน ความมั่นคง การค้า รวมถึงการแสวงหาความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงความ ร่วมมือในการปราบปรามสแกมเมอร์ วันนี้จะมีการพูดคุยเป็นเนื้อหาหลักหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าใช่ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นภาพรวมอยู่แล้ว
ส่วนประเทศไทยมีแนวทางที่จะไปเสนอเรื่องนี้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ผู้สื่อข่าวต้องไม่ถามในรายละเอียด ต้องถามในเรื่องของกรอบ ถามในเรื่องนโยบาย ถามรายละเอียดแบบนี้ไม่ได้หรอกครับ นายกไม่ได้รู้ทุกเรื่อง”
ส่วนที่มีกำหนดการจะหารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ที่เวียงจันทน์ ในวันนี้นั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า มีการนัดหมายกัน เป็นการหารือกัน ถึงการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ซึ่งจะมีขึ้นหลังการประชุมอาเซียนซัมมิท
เมื่อถามต่อว่า จะมีการพูดคุยเรื่องของสแกมเมอร์หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็เป็นเรื่องของ Current affair (เหตุการณ์ หรือ ข่าวสารปัจจุบัน ที่มีความสำคัญ และส่งผลกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ หรือการเมือง)
ส่วนภาพรวมการปราบปรามสแกมเมอร์ถือว่าดีใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้การพูดคุยในทุกๆด้าน มีความคืบหน้าไปในทางที่ดี
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะสามารถกวาดล้างได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “พอหยุดแล้ว ก็ลงรายละเอียดอีก ใจเย็นๆ ”
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจจะมีนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์ทำให้การปราบปรามนั้นติดขัด นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าไม่เคยมีติดขัด จริงๆแล้ว มีการปราบปรามสแกมเมอร์อยู่แล้ว ฝ่ายตำรวจก็ดำเนินการอยู่ตลอด กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคมก็ทำ เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่ได้ทำตามกระแส
ส่วนคณะกรรมการชุดที่นายกรัฐมนตรีตั้งขึ้นมาใหม่ มีกรอบการทำงานและมีเป้าหมายอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า กรอบการทำงานเป็นไปตามหนังสือ โดยมีพลตำรวจเอกเพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นประธานในส่วนของผู้ปฏิบัติงานและผู้ประสานงาน เมื่อถามต่อว่า หวังผลแค่ไหน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า หวังผลเลิศ
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าหาก หากเกาหลีใต้หรือนานาชาติ เช่น สหรัฐฯ ขอความร่วมมือให้เราปราบปรามเราจะมีความพร้อมหรือวางกรอบไว้อย่างไร นายกรัฐมนตรี ยิ้ม พยักหน้ารับ ก่อนกล่าวว่า ครับ ขอบคุณครับ“ และเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที