"เฉลิมพงศ์" ยื่นสอบอดีตผู้พัน ฐท.พังงา เอี่ยวทุจริตเบิกเบี้ยเลี้ยง 8.6 หมื่น

โดย PPTV Online

เผยแพร่

"เฉลิมพงศ์" ยื่นคณะกรรมาธิการทหาร สอบอดีตผู้พันฐานทัพเรือพังงา เอี่ยวทุจริตเบิกเบี้ยเลี้ยงเข้ากระเป๋า 8.6 หมื่น ด้านประธาน กมธ.ทหารเผย มีหลักฐานระดับหนึ่งเชื่อได้ว่ากระทำผิดจริง

16 ต.ค. 68 ที่อาคารรัฐสภา นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน ยื่นหนังสือต่อ นายเอกราช อุดมอำนวย ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบกรณีการทุจริตของอดีตผู้พันสังกัดฐานทัพเรือพังงา

นายเฉลิมพงศ์ เปิดเผยว่า กรณีนี้เกี่ยวข้องกับนายทหารรายหนึ่ง ซึ่งเคยดำรงตำแหน่ง ผู้พัน สห. ฐานทัพเรือพังงา ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 ถึงกันยายน 2568 โดยพบพฤติกรรมเข้าข่ายทุจริตในการเบิกเบี้ยเลี้ยงราชการและค่าที่พักของกำลังพลที่ไม่ได้ปฏิบัติงานจริง

นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน (ซ้าย) FB/เฉลิมพงศ์ แสงดี - Chalermpong Saengdee
นายเฉลิมพงศ์ แสงดี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาชน (ซ้าย)

ทั้งนี้ มีการฝึกประจำปีของหน่วยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ระหว่างวันที่ 6–10 กรกฎาคม 2568 ซึ่งหน่วยฐานทัพเรือพังงาได้ส่งรายชื่อกำลังพลเข้าร่วม 20 นาย แต่ผู้พันรายนี้กลับเบิกเบี้ยเลี้ยงในอัตรา 1,200 บาทต่อวันต่อคน พร้อมค่าที่พัก 3,200 บาทต่อคน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 86,800 บาท

โดยเบี้ยเลี้ยงทั้งหมดถูกโอนเข้าบัญชีส่วนตัวของผู้พันคนดังกล่าว พร้อมมีหลักฐานเอกสารการโอนเงินแนบมาด้วย

นอกจากนี้ ยังพบการปลอมแปลงลายเซ็นของผู้รับเงินทั้ง 20 คน ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้เข้าร่วมการฝึกจริง และบางรายอยู่ต่างจังหวัดในช่วงเวลาดังกล่าว จึงเชื่อว่าเข้าข่ายการเบิกจ่ายโดยมิชอบ

นายเฉลิมพงศ์ เผยว่า เรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้พันคนดังกล่าวมีพฤติกรรมในลักษณะนี้ โดยมีนายทหารชั้นผู้น้อยร้องเรียนต่อเนื่อง เนื่องจากไม่สามารถยอมรับพฤติกรรมดังกล่าวได้ จึงได้นำหลักฐานมายื่นต่อคณะกรรมาธิการทหารเพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินตลอดช่วงดำรงตำแหน่ง

ด้านนายเอกราช อุดมอำนวย ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวว่า หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ตรวจสอบ โดยจะเชิญผู้แทนจากฐานทัพเรือพังงาและหน่วยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นผู้จัดกิจกรรม เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง

หากตรวจสอบพบว่ามีพฤติกรรมทุจริตหรือประพฤติมิชอบจริง คณะกรรมาธิการจะส่งเรื่องต่อให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการต่อ

นายเอกราช กล่าวเพิ่มเติมว่า เบื้องต้นมีพยานหลักฐานในระดับหนึ่งที่เชื่อได้ว่าอาจมีการกระทำทุจริตจริง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการบริหารงานของหน่วยสอนชนภูเก็ต โดยคณะกรรมาธิการจะเร่งตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ก่อนนำผลการพิจารณามาแถลงต่อสื่อมวลชนต่อไป

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ