พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เปิดเผยความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีการสมคบกันในความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือคณะบุคคลที่กระทำความผิดฐานอั้งยี่ ตามมาตรา 209 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องว่า คดีนี้ดำเนินการในฐานความผิดทางอาญา จึงต้องอาศัยพยานหลักฐานที่ชัดเจน ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียด
พร้อมระบุว่า จะมีการประชุมร่วมกับพนักงานอัยการในเร็ว ๆ นี้ หากพบหลักฐานว่า การโอนเงินเป็นผลจากการกระทำความผิด จะดำเนินคดีทันที แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประชุมอย่างเป็นทางการ จึงอยู่ระหว่างการนัดหมาย
เมื่อถามถึงความคืบหน้าการสอบพยานจำนวน 1,200 ราย ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว ส.ว. พ.ต.ต.ยุทธนา ชี้แจงว่า ขณะนี้สอบพยานไปบางส่วนแล้ว แต่คำให้การของพยานส่วนใหญ่ยังไม่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก จึงต้องนำไปพิจารณาและประชุมร่วมกับพนักงานอัยการต่อไป สำหรับการพิจารณาดำเนินคดีต่อพยานกลุ่มใน จ.บุรีรัมย์ ที่ไม่ให้ความร่วมมือและไม่เข้าพบสอบปากคำ ก็ยังต้องรอการประชุมร่วมกับอัยการ
เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่อง ซึ่งสืบสวนที่ 97/2568 กรณีบุกรุกที่ดินเขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ จ.บุรีรัมย์ พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเป็นคดีพิเศษ แต่มีการแสวงหาพยานหลักฐานอย่างต่อเนื่อง โดยสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน ตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์มานานหลายสิบปี จึงต้องพิจารณาว่าเป็นการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่หรือไม่ หากเกิน 20 ปี ก็อาจขาดอายุความ แต่ต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความผิด
พ.ต.ต.ยุทธนา เน้นย้ำว่า คดีทั้งสองเรื่องยังอยู่ระหว่างการสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจว่าหลักฐานและพยานทั้งหมดมีความครบถ้วนก่อนดำเนินการทางกฎหมายต่อไป
- คอนเทนต์พิเศษ
สำหรับคุณ - TOP การเมือง
- วิดีโอยอดนิยม
