โดยก่อนหน้านี้ มีรายงานว่า ผู้จัดการหนุ่มวัย 38 ปี ได้ซื้อ Big Machine Label Group ค่ายเพลงเก่าของ เทย์เลอร์ ที่ครอบครองลิขสิทธิ์ผลงานเพลงของเธอทั้งหมด 6 อัลบั้ม นับตั้งแต่อัลบั้มแรกไปจนถึงอัลบั้ม Reputation ในปี 2017 ซึ่งหมายความว่าการซื้อค่ายเพลงครั้งนี้ ทำให้ สกูตเตอร์ กลายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพลงของ เทย์เลอร์ ไปโดยปริยาย
งานนี้ศิลปินสาววัย 29 ปี จึงได้ออกมาระบายผ่านบล็อกส่วนตัวว่า เธอถูกชายคนนี้กลั่นแกล้งมานานหลายปี โดยยกตัวอย่างกรณีที่เค้าปล่อยให้ศิลปินภายใต้การดูแล ซึ่งก็คือ คานเย่ เวสต์ กับ จัสติน บีเบอร์ เหยียบย่ำเธอในช่วงเวลาตกต่ำ ตอนที่เธอมีประเด็นเกาเหลากับ คานเย่ และภรรยาสาวไฮโซ คิม คาร์แดเชียน เวสต์ ซึ่งการที่สกูตเตอร์ได้ลิขสิทธิ์เพลงของเธอไปถือเป็นเรื่องเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับเธอเลยทีเดียว
พร้อมกันนี้ ซุปตาร์สาวเพลงป๊อปยังตัดพ้อถึงการเซ็นสัญญาไม่เป็นธรรมกับค่ายเพลง Big Machine Label Group ที่ทำให้เธอไม่มีสิทธิ์ในผลงานตัวเอง และไม่สามารถซื้อลิขสิทธิ์เพลงกลับคืนมาได้ เธอจึงตัดใจยอมทิ้งผลงานเก่าไป และไปเริ่มต้นใหม่กับค่ายเพลงที่ยอมให้เธอเป็นเจ้าของเพลงของตัวเองทั้งหมด
ด้าน จัสติน บีเบอร์ ได้ออกมาขอโทษ เทย์เลอร์ ถึงการกระทำน่ารังเกียจของตัวเองในอดีต แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ตำหนิเธอ เรื่องการพาดพิงผู้จัดการส่วนตัวของเขาบนโลกออนไลน์ ที่นอกจากจะทำให้ตกเป็นเป้ากลั่นแกล้งโจมตีของชาวเน็ตแล้ว ยังไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อะไรอีกด้วย
ในขณะที่ สก็อตต์ บอร์เชตต้า ผู้ก่อตั้ง Big Machine Label Group ก็ออกมาชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้เขาได้เสนอให้ เทย์เลอร์ ต่อสัญญากับทางค่าย โดยแลกกับการที่เธอได้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ผลงานตัวเองทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ แต่สุดท้ายเธอก็เลือกเซ็นสัญญากับค่ายใหม่อยู่ดีนั่นเอง
สำหรับตอนนี้ เทย์เลอร์ สวิฟต์ เป็นศิลปินภายใต้สังกัด Republic Records และกำลังจะออกอัลบั้ม Lover ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ 7 ของเธอและเป็นอัลบั้มแรกภายใต้สังกัดนี้ โดยมีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 23 สิงหาคมนี้